นายเวลเลียน วิรานโต นักเศรษฐศาสตร์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ธนาคารเอชเอสบีซี คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกราว 0.25% ไปอยู่ที่ระดับ 3.0% ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 1 มิถุนายน ขณะที่ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อยังคงกดดันเศรษฐกิจต่อไป
เช้าวันนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/54 เติบโตที่ระดับ 3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็นผลมาจากการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ การส่งออก และการลงทุน
ทั้งนี้ อัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงปีที่เหลือ ถึงแม้ว่าการส่งออกในไตรมาส 2 จะลดลง อันเนื่องมาจากเครือข่ายการค้าในภูมิภาคต้องหยุดชะงักจากการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสีหลังเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น
"มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่ ธปท.มีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก เท่าที่ผ่านมา ยังไม่มีการสรุปว่าระดับปกติของอัตราดอกเบี้ยนโยบายควรจะอยู่ที่เท่าใด อย่างไรก็ตาม เมื่อมองในเชิงเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว เรามองว่าเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งไม่หยุด ประกอบกับการดำเนินนโยบายของธปท.อย่างถูกต้อง อาจเป็นไปได้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.0% ยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับปกติ" นายวิรานโต กล่าว
อย่างไรก็ตาม แนวทางการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปสู่ระดับปกติ อาจมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ เนื่องจากการเมืองไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะความเป็นปกติในระดับหนึ่ง การประชุมคณะกรรมการกนง. ครั้งถัดไปหลังจากวันที่ 1 มิถุนายน จะเป็นวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม เพียงไม่กี่สัปดาห์ การเลือกตั้งจะจบลงด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มเข้าสู่การมีเสถียรภาพ หรือ ธปท. สามารถขยับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นอีก คงต้องรอดูต่อไป