สำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า จีนมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาสแรกปีนี้ทั้งสิ้น 2.98 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 18% จากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ จีนมียอดเกินดุลบัญชีทุนทั้งสิ้น 1.114 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกปีนี้ สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.12 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ยังต่ำกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.189 แสนล้านดอลลารร์
SAFE ระบุว่า สินทรัพย์ทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 1.38 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกปีนี้
-- นายเจียว จินผู่ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยด้านการเงินของธนาคารกลางจีนกล่าวว่า การที่จีนมียอดเกินดุลทั้งบัญชีเดินสะพัดและบัญชีทุนในไตรมาสแรกปีนี้นั้น ได้สร้างแรงกดดันอย่างใหญ่หลวงต่อการควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ
นอกจากนี้ นายเจียวยังกล่าวว่า จีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากกระแสเงินทุนไหลเข้าและภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากสภาพคล่องส่วนเกินทั่วโลก
-- คณะกรรมาธิการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน (SASAC) เปิดเผยว่า บริษัทไชน่า กัวซิน โฮลดิ้ง หรือที่สื่อมวลชนเรียกว่า "บรรษัทการลงทุนแห่งที่สองของจีน" ได้เข้าเทคโอเวอร์กิจการไชน่า ฮัวซิง กรุ๊ป ซึ่งทำให้ไชน่า ฮัวซิง กรุ๊ป กลายเป็นวิสาหกิจแห่งแรกของรัฐที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของไชน่า กัวซิน โฮลดิ้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน