ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) จะขยายตัวช้าลงในปี 2554 เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นที่เกิดขึ้นในภูมิภาคดังกล่าว แต่ถึงกระนั้นกลุ่มประเทศในภูมิภาคนี้ยังมีโอกาสขยายตัวได้ในอนาคต
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจประจำภูมิภาคของธนาคารโลกในหัวข้อ MENA Facing Challenges and Opportunities ระบุว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาค MENA จะขยายตัวที่ระดับ 3.6% ในปี 2554 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่ธนาคารคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2553 อยู่ 1.4%
รายงานระบุว่า ภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศของภูมิภาค MENA ขณะนี้สะท้อนถึงการขยายตัวที่ช้าลงในระยะสั้น แต่โอกาสในระยะกลางช่วยสร้างความหวังใม่สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในภูมิภาคนี้
รายงานพบว่า ในช่วงสิ้นปี 2553 กลุ่มประเทศ MENA ฟื้นตัวขึ้นมากจากวิกฤตการเงินโลก และมีอัตราการขยายตัวที่คาดว่าแตะระดับก่อนเกิดวิกฤตในปี 2554
นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2554 ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอำนาจการปกครองในตูนีเซียและอียิปต์ รวมถึงปัญหาที่ยังคงดำเนินอยู่ในบาเรนห์ ลิเบีย ซีเรีย และเยเมน ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคระยะสั้น รวมถึงสถานภาพและความรวดเร็วในการปฏิรูปเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้
อย่างไรก็ตาม "การเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองทำให้ประเทศเหล่านี้มีโอกาสที่จะผลักดันประเทศก้าวไปสู่ทิศทางใหม่" ชามแชด อักห์ตาร์ รองประธานธนาคารโลกประจำภูมิภาค MENA กล่าว โดยธนาคารโลกคาดว่าการขยายตัวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หากการเปลี่ยนตัวผู้นำทำให้การบริหารประเทศประสบความสำเร็จ