นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับเรือเดินประจำทางมีมติอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าเรือโดยสารตามข้อเรียกร้องของภาคเอกชน โดยจะมีการปรับขึ้นค่าเรือโดยสาร ทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือคลองแสนแสบ และเรือข้ามฟาก มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.เป็นต้นไป
ในส่วนของเรือโดยสารนั้น เรือด่วนเจ้าพระยาปรับขึ้นระยะละ 1 บาท ประกอบด้วย เรือด่วนเจ้าพระยาธงธรรมดา อัตราค่าโดยสารเป็น 10, 12 และ 14 บาท จากเดิม 9, 11 และ 13 บาท เรือด่วนเจ้าพระยาธงส้ม อัตราค่าโดยสารเป็น 15 บาทตลอดสาย จากเดิม 14 บาทตลอดสาย เรือด่วนเจ้าพระยาธงเหลือง อัตราค่าโดยสารเป็น 20 และ 29 บาทตลอดสาย จากเดิม 19 และ 28 บาทตลอดสาย และเรือด่วนเจ้าพระยาธงเขียว อัตราค่าโดยสารเป็น 13, 20 และ 32 บาทตลอดสาย จากเดิม 12, 19 และ31 บาทตลอดสาย
เรือคลองแสนแสบปรับขึ้นระยะละ 1 บาทเช่นกัน โดยอัตราค่าโดยสารใหม่เป็นเที่ยวละ 10, 12, 14, 16, 18 และ 20 บาท จากเดิม 9, 11, 13, 15, 17 และ 19 บาท และเรือข้ามฟาก ปรับขึ้นเที่ยวละ 0.50 บาท โดยจะให้ปรับขึ้น 3 ท่าก่อน คือ ท่าสี่พระยา-คลองสาน อัตราค่าโดยสารเป็น 3.50 บาท จากเดิม 3 บาท ท่าตากสิน-สาทร อัตราค่าโดยสารเป็น 3.50 บาท จากเดิม 3 บาท และท่าพระสมุทรเจดีย์-วิบูลย์ศรี อัตราค่าโดยสารเป็น 4 บาท จากเดิม 3.50 บาท
ทั้งนี้ อัตราค่าโดยสารดังกล่าวคิดบนพื้นฐานราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 29-33 บาท หากในอนาคตราคาน้ำมันปรับลดลงต่ำกว่าลิตรละ 29 บาท ผู้ประกอบการจะต้องปรับลดค่าโดยสารลงระยะละ 1 บาททันที
สาเหตุที่ต้องพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร เพราะต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นจริง โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่สูงเกินกว่าเพดานที่กรมเจ้าท่าได้ตกลงกับผู้ประกอบการไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารเมื่อราคาน้ำมันสูงกว่าลิตรละ 29 บาท ขณะที่กำไรลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ประมาณ 20% อยู่ที่ประมาณ 10% และท่าเรือข้ามฟากบางแห่งถึงกับขาดทุน เช่น ท่าเรือสาทร ผู้โดยสารลดลงกว่า 60% หลังมีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ