นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง เศรษฐกิจไทย เอาไงกันดี ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 54 จัดโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้เผชิญอุปสรรค 3 ด้าน ได้แก่ ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ปัญหาด้านพลังงานและการพัฒนาระบบขนส่ง และการใช้จ่ายภาครัฐที่ให้น้ำหนักกับรายจ่ายประจำมากกว่างบลงทุน ทำให้การลงทุนของไทยยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้มากเท่าที่ควร
ปัญหาด้านแรงงานขาดแคลน ถือเป็นข้อจำกัดในการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาแรงงานสูง เนื่องจากกำลังแรงงานของไทยขยายตัวช้ากว่าการจ้างงาน จึงส่งผลให้อัตราการว่างงานโน้มต่ำลงเหลือเพียง 0.7% ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา 54 เห็นได้จากการขาดแคลนแรงงานในทุกระดับ
ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานให้มีคุณภาพ โดยฝึกอบรมและพัฒนาทักษะแรงงาน ลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ภาครัฐต้องส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศอย่างต่อเนื่อง ยกระดับคุณภาพการศึกษาและสร้างแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดให้เกิดนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะหากแก้ปัญหาโดยการเพิ่มปริมาณแรงงานต่างด้าว ที่อาจมีทักษะต่ำ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง อาจสร้างปัญหาสังคมและสุขอนามัย โดยเฉพาะจะซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำการกระจายรายได้ จึงไม่ส่งผลดีในระยะยาว
ส่วนปัญาด้านพลังงานเศรษฐกิจไทยยังต้องพึ่งพาน้ำมันสูงเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน เพราะปัจจุบันไทยขนส่งสินค้าในประเทศโดยใช้เส้นทางถนนถึง 83% เป็นต้นทุนโลจิสติกส์สูงถึง 16.8% ของจีดีพี เมื่อปี 52 หรือคิดเป็น 2 เท่าของสหรัฐ ไทยจึงเสียเปรียบด้านความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่การตรึงราคาน้ำมันไม่ใช่แนวทางที่ยั่งยืนในภาวะแนวโน้มราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ไทยต้องปรับตัวโดยการลดการพึ่งพาน้ำมัน โดยการใช้น้ำมันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และหันมาใช้พลังงานทดแทนอื่นๆ
สำหรับ ปัญหาเรื่องการจัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่สัดส่วนงบประมาณการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มต่ำลงจากที่เคยสูงถึง 41% ในปีงบประมาณ 40 เหลือเพียง 18% ในปีงบประมาณ 53 และมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ดังนั้น รัฐบาลต้องสร้างสมดุลในการใช้งบประมาณ และไม่ควรละเลยการลงทุนภาครัฐ โดยเร่งทำตามเกณฑ์ให้มีการลงทุนภาครัฐไม่ต่ำกว่า 25% ของงบประมาณ และส่งเสริมการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน
นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธปท. กล่าวยอมรับว่า ไทยมีปัญหาแรงงานตึงตัวพอสมควรมาระยะหนึ่งแล้ว โดยอัตราการว่างงานเดือนมี.ค.อยู่ที่ 0.7% หรือประมาณ 2-3 แสนคน ซึ่งถือว่าต่ำเป็นประวัติการณ์และยังมีแนวโน้มต่ำลงต่อเนื่อง แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด ต้องพัฒนาฝีมือแรงงานทุกระดับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานให้มีคุณภาพ และลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น