ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกที่ขยายตัวน้อยกว่าคาด ขณะที่ค่าเงินยูโรยังคงถูกกดดันจากความไม่แน่นอนที่ว่า กรีซจะได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หรือไม่
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.31% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4129 ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4085 ยูโร และดิ่งลง 0.71% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6386 ปอนด์ จากระดับ 1.6270 ปอนด์
นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.84% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.300 เยน จากระดับ 81.990 เยน และดิ่งลง 0.77% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.8659 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8726 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.04% แตะระดับ 1.0638 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0528 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.72% แตะที่ 0.8113 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7976 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆแทบทุกสกุล เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริง ประจำไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวเพียง 1.8% ต่อปี น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.1% และน้อยกว่าไตรมาสสี่ปีที่แล้วที่สามารถขยายตัวได้ถึง 3.1% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลลดการใช้จ่าย
ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วัน 21 พ.ค.ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 424,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 414,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 400,000 ราย
ส่วนค่าเงินยูโรยังคงถูกกดดันจากวิกฤตหนี้ยุโรปและสถานะด้านการคลังที่อ่อนแอของกรีซ โดยนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานกลุ่มยูโรโซนเตือนว่า ไอเอ็มเอฟอาจจะยังไม่ให้ความช่วยเหลือครั้งใหม่แก่กรีซมูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.7 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากรัฐบาลกรีซและพรรคฝ่ายค้านยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องนโยบายลดการขาดดุลงบประมาณ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรลียพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะขยายตัว 4.5% ในปี 2555 เพราะได้แรงหนุนจากมูลค่าการค้าที่สูงเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ออสเตรเลียยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายสตีเฟน โรเบิร์ตส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ ออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนของออสเตรเลียที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในไตรมาสแรกอาจจะทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.