นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังคงเป้าหมายเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตที่ 4-5% แม้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประกาศเศรษฐกิจไตรมาส 1/54 ขยายตัว 3% ต่ำกว่าที่ สศค.คาดการณ์ไว้ที่ 4% เนื่องจากหากพิจารณาด้าน demand side ยังขยายตัวแข็งแกร่ง แต่เนื่องจากมีปัญหาเชิงเทคนิคด้านการผลิต ทำให้ไม่สามารถตอบสนองด้าน demand ได้
ส่วนเศรษฐกิจไตรมาส 2/54 ขณะนี้ยังประเมินได้ยากว่าจะชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหรือไม่ เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ชะลอลง จากผลกระทบภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น แต่มองภาคบริการจากจำนวนนักท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดีมาก รวมถึงภาคเกษตรที่ยังขยายตัวดี
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งราคาน้ำมันที่สร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ รวมถึงเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า แต่อีกด้านยังมีปัจจัยหนุนการเติบโตเศรษฐกิจเช่นกัน โดย สศค.จะมีการทบทวนเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้อีกครั้งในเดือน มิ.ย.54
สำหรับแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าสิ้นปี 54 จะอยู่ที่ 3.25% แต่ความถี่ของการขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ที่จะพิจารณาจากการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อในระยะต่อไป ประกอบกับ ช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีความเสี่ยงเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจในเดือน เม.ย.54 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แม้อุปสงค์ในประเทศจะมีสัญญาณชะลอตัว หลังจากเร่งตัวมากขึ้นในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับ ข้อจำกัดการผลิตยานยนต์จากเผลกระทบเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น แต่การผลิตภาคการเกษตรและการบริการยังคงเติบโตต่อเนื่อง
"มองว่าผลกระทบจากญี่ปุ่นที่มีผลต่อซัพพลายเชนและการผลิตรถยนต์ในประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่ากำลังซื้อหายไป แต่ปัญหามาจากการส่งมอบสินค้า ซึ่งผลกระทบน่าจะเป็นแค่ไตรมาสเดียว เพราะขณะนี้ค่ายรถยนต์เริ่มกลับมาประกาศผลิตรถยนต์ได้ตามปกติแล้ว" นายบุญชัย กล่าว