นางสาวพิมพา ถาวรายุศม์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้มีหนังสือเวียนถึงธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง เพื่อแจ้งแนวนโยบายสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เป็นต้นไป
สรุปสาระสาคัญ ได้ดังนี้ 1. แนวนโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 มุ่งเน้นให้ ธนาคารพาณิชย์มีบทบาทมากขึ้นในการให้บริการทางการเงินแก่ประชาชนในระดับฐานราก ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ ธปท.ที่ให้ความสาคัญกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและทั่วถึง โดยประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น
2. ธนาคารพาณิชย์สามารถให้บริการสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ได้อย่างคล่องตัวขึ้น โดยมีการบริหารความเสี่ยงที่ดีและเหมาะสม ซึ่งสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ดังกล่าว หมายถึง สินเชื่อที่ให้เพื่อ การประกอบอาชีพโดยให้ได้กับบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลในวงเงินไม่เกิน 200,000 บาท
3. เพื่อเอื้อให้รูปแบบสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจและวิถีการประกอบอาชีพของประชาชนในระดับฐานราก จึงได้เพิ่มความคล่องตัวในเรื่องดังต่อไปนี้ ไม่กำหนดรายได้ขั้นต่าของผู้ขอสินเชื่อ เอกสารหลักฐานและหลักประกันที่ใช้ประกอบ การขอสินเชื่อ แต่ให้ธนาคารพาณิชย์มีกระบวนการพิจารณาที่เหมาะสม, เอื้อให้สามารถให้บริการนอกสถานที่ เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน และผู้ขอสินเชื่อเป็นได้ทั้งบุคคลและนิติบุคคล
4. เพื่อให้มีการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเหมาะสม ธนาคารพาณิชย์ต้องมีความโปร่งใส เรื่องดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมโดยพิจารณาให้เป็นไปตามความเสี่ยงของลูกค้า ทั้งนี้ไม่ให้เกินร้อยละ 28 ต่อปี รวมทั้งต้องมีการแจ้งข้อมูลที่จาเป็นต่อลูกหนี้ในเวลาอันควร และมีกระบวนการดูแลคาร้องเรียนอย่างเป็นระบบ
5. ธปท.ยังคงให้ธนาคารพาณิชย์รักษามาตรฐานการบริหารความเสี่ยงและคุณภาพของสินเชื่อ ตลอดจนความเพียงพอของเงินกองทุนตามมาตรฐานที่ดีอย่างต่อเนื่อง
6. แนวนโยบายนี้จะเอื้อให้ธนาคารพาณิชย์สามารถพัฒนารูปแบบสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่หลากหลายและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวให้ดีขึ้น