ธปท.เผยผล stress test สภาพคล่องแบงก์ดีรองรับกม.คุ้มครองเงินฝากได้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 27, 2011 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยถึงผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress test) โดยจำลองสถานการณ์ว่าจะมีการโยกเงินฝากเกิดขึ้น หลังจากที่กฎหมายคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ส.ค.นี้ ซึ่งทำให้การคุ้มครองเงินฝากจะลดเหลือวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อบัญชีว่า ธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่งไม่มีปัญหา มีเพียง 1-2 ธนาคารเท่านั้นที่ติดปัญหาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่รุนแรง

และจากผลการทดสอบถือว่าสภาพคล่องโดยรวมของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับที่สูง เพียงพอสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น เกิดการไถ่ถอนเงินหรือการโยกเงินฝากไปยังธนาคารอื่น

“Stress test ที่เราทำ ดูเฉพาะในเรื่องสภาพคล่อง โดยให้เขาจำลองสถานการณ์ว่า หากลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือ 50 ล้านบาทแล้ว โดยประสบการณ์ของเขาคิดว่า ถ้าจะมีการไถ่ถอนเงินเกิดขึ้น มากสุดจะเป็นเท่าไหร่ และเขามีแผนรองรับอย่างไรกันบ้าง รวมทั้งจะใช้วิธีไหนในการระดมเงินฝากมาชดเชย โดยทุกธนาคารต้องทำจากประสบการณ์ของตัวเอง ซึ่งผลที่ออกมาถือว่าน่าพอใจอาจจะมีติดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อยู่เพียง 1-2 แห่งเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร"นายสรสิทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าธนาคารพาณิชย์ก็เริ่มมีการปรับตัวรองรับกับกฎหมายคุ้มครองเงินฝากที่กำลังจะใช้บ้างแล้ว โดยเห็นได้จากการหันมาออกตั๋วแลกเงิน(บี/อี)เพื่อการระดมเงินกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นวิธีในการกระจายเงินฝากและเป็นการเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับ ขณะเดียวกันก็พบว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเริ่มมองหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน(credit line) ระหว่างกัน

“หลายแบงก์เริ่มเปลี่ยนจากเงินฝากไปเป็นในรูปของตั๋วบี/อี ซึ่งเป็นการกระจายเงินฝาก รวมถึงการเตรียมสภาพคล่องในการรองรับ รวมทั้งไม่ขยายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างก้าวกระโดด คือ ไม่นำเงินที่ระดมได้จากตั๋วบี/อี ไปใช้ปล่อยสินเชื่อระยะยาวจนเกิดปัญหา miss match ขึ้น"นายสรสิทธิ์ กล่าว

สำหรับการออกตั๋วบี/อีของธนาคารพาณิชย์นั้น ได้รับความสนใจจากลูกค้าค่อนข้างมาก เพราะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น และเนื่องจากการออกตั๋วบี/อีไม่ถือเป็นการระดมเงินฝากจึงไม่จำเป็นต้องส่งเงินนำฝาก 0.4% ไปยังสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ทำให้ธนาคารพาณิชย์สามารถที่จะนำเงินส่วนนี้มาจ่ายคืนเป็นผลตอบแทนให้กับลูกค้าได้ เพียงแต่ต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่าการลงทุนในตั๋วบี/อีไม่ถือเป็นการฝากเงิน จึงไม่ได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากด้วย

ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) มีแนวคิดที่จะนำการออกตั๋วบี/อีของธนาคารพาณิชย์ไปอยู่ภายใต้การดูแลของก.ล.ต.นั้น ถือเป็นเรื่องดี เพียงแต่ยังไม่มีการสรุปในเรื่องนี้ คงต้องรอการหารือกันอีกครั้งก่อน

“สาเหตุที่ก.ล.ต.ต้องการจะเอาเรื่องตั๋วบี/อีไปดูแลนั้น เป็นเพราะการออกตั๋วบี/อี ถือเป็นการออกหลักทรัพย์อย่างหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีคนดูแลที่ชัดเจน ธนาคารที่ต้องการออกก็สามารถนำออกขายได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตใคร ทางก.ล.ต.จึงมองว่าเมื่อมีการออกกันมากขึ้น และตั๋วบี/อีนี้ก็ไม่ได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากด้วย ก็ควรเข้าไปดูแลการออกตั๋วบี/อี ซึ่งจะเป็นการช่วยคุ้มครองผู้ลงทุนได้ระดับหนึ่ง"นายสรสิทธิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ