คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังดำเนินการตรวจสอบในเชิงลึกเกี่ยวกับการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) โดยกรณีแรกคือการที่บริษัท ซีเกต เทคโนโลยี ของสหรัฐ มีแผนเข้าซื้อธุรกิจ HDD ของบริษัท ซัมซุง จากเกาหลีใต้ เป็นเงินมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกกรณีคือการที่บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น ของสหรัฐ มีแผนเข้าซื้อธุรกิจของบริษัท ฮิตาชิ จากญี่ปุ่น มูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผลการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า การควบรวมกิจการทั้งสองกรณีอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาด เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทผลิต HDD เพียง 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ซีเกต, เวสเทิร์น ดิจิตอล, โตชิบา, ซัมซุง และ ฮิตาชิ ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็น วิวิติ เทคโนโลยีส์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การควบรวมกิจการระหว่างซีเกตและซัมซุง จะตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด HDD ของซีเกต โดยเฉพาะในด้านการผลิต HDD ตั้งโต๊ะ 3.5 นิ้ว ซึ่งมีผู้แข่งขันเพียงสองรายคือ เวสเทิร์น ดิจิตอล และ ฮิตาชิ ในขณะที่การควบรวมกิจการระหว่าง เวสเทิร์น ดิจิตอล และ ฮิตาชิ จะทำให้เกิดผู้นำตลาด HDD โลก โดยเฉพาะในด้านการผลิต HDD ตั้งโต๊ะ 3.5 นิ้ว ซึ่งมีผู้แข่งขันเพียงสองรายคือ ซีเกต และ ซัมซุง และสำหรับการผลิต HDD พกพา 2.5 นิ้ว จะมีคู่แข่งเพียง ซีเกต ซัมซุง และ โตชิบา
"ฮาร์ดไดรฟ์เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจยุคดิจิตอล มีการควบรวมกิจการเกิดขึ้นหลายครั้งในอุตสาหกรรมนี้ และการควบรวมกิจการกันอีกจะทำให้การแข่งขันในตลาดลดลง ดังนั้นทางคณะกรรมาธิการจะตรวจสอบอย่างละเอียดว่าตลาดยังมีการแข่งขันและมีการพัฒนาเชิงนวัตกรรมอย่างเหมาะสมหรือไม่" นายวาคิน อัลมูเนีย รองประธานคณะกรรมาธิการด้านนโยบายการแข่งขัน กล่าว
คณะกรรมาธิการกล่าวว่า การตรวจสอบในเชิงลึกไม่ได้หมายความว่ามีการตัดสินคดีแล้ว โดยทางคณะกรรมาธิการยังมีเวลาอีก 90 วันทำงาน (จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม) ก่อนการตัดสินครั้งสุดท้าย
ทั้งนี้ HDD ถูกนำไปใช้เก็บข้อมูลดิจิตอลในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภท อาทิ คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกวิดีโอแบบดิจิตอล และกล้องวิดีโอ เป็นต้น