ก.พลังงาน ศึกษาโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ หลังก๊าซธรรมชาติส่อแววขาดแคลน

นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบานและแผนพลังงาน (สนพ.)ทำการศึกษาโครงสร้างพลังงานของไทยทั้งระบบ เนื่องจากประเทศไทยมีการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟ้าในสัดส่วนสูงถึง 70% ทำให้ในอนาคตจะเกิดปัญหาขาดแคลน เพราะความต้องการเพิ่มขึ้นมาก โดยจะเห็นได้จากในปีนี้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติสูงถึง 4,500-4,600 ล้านลูกบาก์ศฟุตต่อวันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 4,300 ล้านลูกบาก์ศฟุตต่อวัน หรือ 1.25 ล้านล้านล้านลูกบาก์ศฟุตต่อปี

ส่งผลให้ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยเหลือใช้ได้ 18 ปี แต่ในปีหน้าเศรษฐกิจโตขึ้นก็จะทำให้การใช้ไฟฟ้าโตขึ้นโดยคาดว่าจะใช้ก๊าซธรรมชาติสูงถึง 5,000 ล้านลูกบาก์ศฟุตต่อวัน จะเหลือใช้เพียง 15 ปี

สำหรับความคืบหน้าโครงการติดตั้งแท๊กซี่เอ็นจีวี 15,000 คัน หลังเอกชนขอยกเลิกสัญญา ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนแนวทางในอนาคตจะมี 2 ทางเลือกให้ กพช. ตัดสินใจ ประกอบด้วย การเปิดประมูลจำนวน 15,000 คันตามเดิม หรือ ลดสัดส่วนลงหรือ 5,900 ตามที่มีผู้สนใจจะดำเนินการในก่อนหน้านี้

ส่วนกรณีเยอรมนีมีแผนยกเลิกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ภายในปีระเทศในอีก 11 ปีข้างหน้า ถือเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลเยอรมนี ที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม หลังเกิดวิกฤตนิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่น และถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้

โดยในส่วนของประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้เช่นกัน จึงได้เลื่อนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ออกไปอีก 3 ปี ขณะที่ประเทศจีนที่มีแผนเดินหน้าก่อสร้างโครงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่อไป แต่คาดว่าแผนใหม่ก็อาจมีการทบทวนให้มีการความรอบครอบมากขึ้น