อัตราเงินเฟ้อในองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 2.7% ในเดือนมี.ค. เนื่องจากราคาพลังงานและอาหารที่สูงขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อล่าสุดถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2551 โดยได้รับแรงผลักดันจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น 13.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับ 12.4% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ราคาอาหารที่ขยายตัว 3.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 3.2% ในเดือนมี.ค.
หากไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานแล้ว อัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ขยายตัว 1.6% จากระดับปีที่แล้ว นับเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2553
ทั้งนี้ หากไม่รวมแคนาดา ประเทศพัฒนาแล้วชั้นนำอีก 6 ประเทศ มีอัตราเงินเฟ้อขยายตัวขึ้นในเดือนเม.ย. โดยเงินเฟ้อของอังกฤษและสหรัฐขยายตัวสูงสุดที่ 4.5% และ 3.2% ตามลำดับ ส่วนเยอรมนีขยายตัว 2.4% อิตาลี 2.6% ฝรั่งเศส 2.1% และญี่ปุ่น 0.3%