นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการเดินทางเยือนไปรัสเซีย ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการรับเงินชำระหนี้ค่าข้าวจำนวน 36.44 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,093 ล้านบาทจากรัสเซียแล้ว โดยรัสเซียจะโอนเงินให้ไทยภายใน 30 วันทำการ หรือภายในวันที่ 12 ก.ค.54
"เป็นความสำเร็จของกระทรวงพาณิชย์ที่สามารถติดตามหนี้ค่าข้าวก้อนนี้คืนมาได้ โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และได้เสนอให้ ครม.พิจารณาว่าจะเอาอย่างไรกับหนี้ก้อนนี้ ซึ่งได้เสนอให้ครม.อนุมัติให้รับชำระคืนแค่เงินต้น ส่วนดอกเบี้ยไม่ต้องคิด เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย และเมื่อได้รับการอนุมัติ ก็มีการสานต่อจนได้คืนหนี้คืนในที่สุด" รมว.พาณิชย์ กล่าว
อนึ่ง หนี้ข้าวดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 33 โดยสหภาพโซเวียตขอซื้อข้าวจากไทย 200,000 ตันเป็นเงินเชื่อ ชำระภายใน 2 ปี หรือเดือน มี.ค.36 ดอกเบี้ย 4% ต่อปี มูลค่าประมาณ 60 ล้านดอลลาร์ แต่ผ่อนชำระได้ 3.4 ล้านดอลลาร์ จากนั้นสหภาพโซเวียตได้ล่มสลาย แต่รัสเซียได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ในปี 37 และผ่อนชำระถึงเดือน ก.ค.37 รวมเป็นเงิน 39.53 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อรัสเซียประสบปัญหาทางการเงินจึงหยุดพักชำระหนี้
อย่างไรก็ดี ไทยได้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้งในปี 46 ซึ่งล่าสุดเมื่อปลายปี 53 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแนวทางรับชำระหนี้ข้าวรัสเซียเป็นเงินสด โดยไม่คิดดอกเบี้ย ตามแนวทางที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
นางพรทิวา กล่าวถึงการผลักดันการส่งออกสินค้าไทยไปรัสเซียว่า ไทยจะส่งออกรัสเซียอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพมาก โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายตัวสูงถึง 50% คิดเป็นมูลค่า 1,050 ล้านดอลลาร์ จากปีก่อนที่มีมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าที่มีโอกาส ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ, ยานยนต์และชิ้นส่วน, อาหาร เช่น ข้าว, ไก่, อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น