ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ หากรัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงน้อยเกินคาดของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค.ในคืนวันศกร์ตามเวลาไทย
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.18% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4481 ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4312 ยูโร และอ่อนตัวลง 0.20% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6360 ปอนด์ จากระดับ 1.6328 ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.880 เยน จากระดับ 80.900 เยน แต่ขยับขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8422 ฟรังค์ จากระดับ 0.8420 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.71% แตะที่ 1.0675 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0600 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนดพุ่งขึ้น 0.34% แตะที่ 0.8162 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8134 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ออกรายงานเตือนว่า มูดีส์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ หากรัฐบาลและสภาคองเกรสสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ขณะเดียวกันมูดีส์ระบุว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐมีความรุนแรงมากขึ้น และหากรัฐสภาและรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถตกลงกันในเรื่องนี้ได้ ก็มีความเสี่ยงอย่างมากที่สหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค.ปรับตัวลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 422,000 ราย น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 415,000 ราย
ขณะที่ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นขานรับการแสดงความคิดเห็นของนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่เรียกร้องให้ประเทศกลุ่มยูโรโซนใช้มาตรการควบคุมการใช้จ่ายเพื่อให้เผชิญกับปัญหาหนี้เหมือนกับกรีซ
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.1% แตะที่ 2.197 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคชาวออสเตรเลียมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันศุกร์ตามเวลาไทย รวมถึงดัชนีภาคบริการและดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนพ.ค.และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 185,000 ราย และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนพ.ค.จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.9%