กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าล็อตใหม่ในภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลดลง 1.2% ในเดือนเมษายน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นหลักฐานล่าสุดที่แสดงให้เห็นภาพรวมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซา
ในเดือนเมษายน ยอดสั่งซื้อสินค้าในโรงงานของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 4.404 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนมีนาคม
ยอดสั่งซื้อล็อตใหม่สำหรับสินค้าคงทน ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอายุการใช้งานยาวนานอย่างน้อย 3 ปี เช่น คอมพิวเตอร์ รถยนต์ และเครื่องจักรนั้นปรับตัวลดลง 3.6% มาอยู่ที่ 1.903 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน
อุปสงค์อุปกรณ์ด้านการคมนาคมขนส่ง ซึ่งมีสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของอุปสงค์สินค้าคงทนทั้งหมดร่วงลง 9.3% สู่ระดับ 4.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยอดสั่งซื้อล็อตใหม่สำหรับสินค้าอายุการใช้งานสั้น เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์กระดาษ สินค้าปิโตรเลียมและถ่านหินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.6% สู่ระดับ 2.501 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนดังกล่าว
ทั้งนี้ การฟื้นตัวของภาคการผลิตเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการที่มีการเปิดเผยไปเมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ช้าลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาพลังงานสูงขึ้น และอุปสงค์ลดน้อยลง