สมาคมน้ำตาลกวางซีเปิดเผยว่า เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของจีน มียอดขายน้ำตาลทั้งสิ้น 4.8 ล้านตัน นับตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลหีบอ้อย 2010/11 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ โดยตัวเลขดังกล่าวลดลง 406,000 ตัน หรือ 15.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ ยอดขายน้ำตาลในเดือนพฤษภาคมของมณฑลอยู่ที่ 801,200 ตัน เพิ่มขึ้น 231,200 ตัน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
ในขณะเดียวกัน ราคาขายเฉลี่ยของน้ำตาลเกรดหนึ่ง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมของมณฑลอยู่ที่ 6,964 หยวน/ตัน เพิ่มขึ้น 2,133 หยวน/ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
-- เหม่ย ซูรอง ผู้อำนวยการฝ่ายสถาบันสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์เพื่อการเกษตรของจีน กล่าวว่า ภาวะภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษของจีนจะไม่ผลักดันให้ราคาสินค้าธัญพืชพุ่งสูงขึ้นจนเกินไป แต่จะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของข้าว
อย่างไรก็ตาม นายเหม่ยกล่าวว่า มาตรการป้องกันภัยแล้งสามารถบรรเทาลงได้ในระดับหนึ่ง และยังเร็วเกินไปที่จะประเมินปริมาณผลผลิตข้าวว่าจะลดลงหรือไม่
ด้านนายเชง เกาเฉียง นักวิจัยจากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งรัฐสภา กล่าวว่า ราคาธัญพืชที่สูงขึ้นในตลาดโลกจะไม่ผลักดันราคาในตลาดภายในประเทศ เนื่องจากจีนมีโครงสร้างอุปสงค์และอุปทานที่สมดุลกัน
-- แหล่งข่าวเปิดเผยว่าจีนได้กำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำของเรพซี้ดสำหรับปีนี้ไว้ที่ 4,600 หยวน/ตัน และกำหนดจำนวนรับซื้อขั้นต่ำเอาไว้ที่ 2 ล้านตัน แต่รัฐบาลอาจรับซื้อเรพซี้ดเพิ่มเติมตามสถานการณ์ตลาด
ไชน่า เกรน รีเสิร์ฟส คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้บริหารสต็อกของรัฐบาล อาจรับซื้อเรพซี้ดจากเกษตรกรหากราคาลดลงต่ำกว่าราคาขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนด การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาและปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกร สำนักข่าวซินหัวรายงาน