โอบามารับเศรษฐกิจสหรัฐยังเผชิญหนทางยากลำบากในการฟื้นตัว

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับถนนหนทางที่ขรุขระ แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศสามารถพลิกฟื้นกลับมาทำกำไรได้แล้วก็ตาม

โอบามากล่าวกับบรรดาพนักงานที่โรงงานไครสเลอร์ในรัฐโอไฮโอว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฟื้นตัวกลับมาได้ และกำลังชำระคืนหนี้ให้กับรัฐบาล แต่ประเทศจะต้องผ่านเส้นทางที่วิบากต่อไปอีก

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐบรรลุข้อตกลงขายหุ้นของกระทรวงที่เหลืออยู่ 6% ในไครสเลอร์ให้กับบริษัทเฟียตของอิตาลี ซึ่งหลังจากที่การซื้อขายหุ้นดังกล่าวเสร็จสิ้นลง การลงทุนในไครสเลอร์ภายใต้โครงการ TARP ของกระทรวงการคลังสหรัฐก็จะสิ้นสุดลงตามไปด้วย

กระทรวงการคลังสหรัฐได้ใช้งบประมาณรวม 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในไครสเลอร์ภายใต้โครงการ TARP อย่างไรก็ดี ไครสเลอร์สามารถชำระคืนหนี้รัฐบาลได้เร็วกว่าที่ได้มีการวางแผนไว้ถึง 6 ปี ซึ่งถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐนั้นพลิกฟื้นตัวขึ้นแล้ว

โดยหลังจากที่เจนเนอรัล มอเตอร์ส และไครสเลอร์ เกือบจะล้มละลายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ค่ายรถทั้งสองและฟอร์ดต่างก็สามารถกลับมาทำกำไรได้ และอุตสาหกรรมยานยนต์ก็สามารถสร้างงานใหม่ได้ 115,000 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 54,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าคาดการณ์ ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพ.ค.ขยับขึ้นสู่ระดับ 9.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราว่างงานและการชะลอตัวของการจ้างงานได้จุดปะทุความหวาดกลัวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นนั้น กำลังอ่อนแรงลง

"ผมไม่อยากแสร้งทำเป็นว่าปัญหาทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว เรายังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะต้องก้าวต่อไป ไม่ใช่เพียงแต่ในอุตสาหกรรมนี้ แต่รวมถึงเศรษฐกิจของเราด้วย" ปธน.โอบามากล่าว