อีธาน แฮร์ริส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เขตอเมริกาเหนือของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8%
แฮร์ริสเปิดเผยในที่ประชุมประจำปีของมหาวิทยาลัยฝูตั้นในประเทศจีนว่า เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงชะลอตัวลงและอยู่ในภาวะเปราะบาง จึงคาดว่าเฟดจะต้องใช้ความอดทนอย่างมาก ก่อนที่จะเริ่มใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
"เฟดต้องการเห็นเศรษฐกิจมีความคืบหน้าอย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าอัตราว่างงานจะต้องลดลงอย่างมาก หากอัตราว่างงานไม่ปรับตัวลดลง คุณก็จะไม่สามารถฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยได้ และคุณจะไม่สามารถฟื้นฟูงบดุลของภาคครัวเรือนได้ด้วย เราจำเป็นต้องให้อัตราว่างงานลดลง เพื่อฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่ในเวลานี้" แฮร์ริสกล่าว
"เราคาดว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8% และยังคงปรับตัวลงเรื่อยๆ" เขากล่าว
แฮร์ริสคาดว่า เฟดจะใช้คำว่า "ตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง" ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2555 และจากนั้นคาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในไตรมาส 3 ของปีดังกล่าว และคาดว่าเฟดจะเริ่มขายสินทรัพย์ในปี 2556
นอกจากนี้ แฮร์ริสคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 และคาดว่า จะขยายตัว 2.4% ต่อปีในปี 2554 สำนักข่าวซินหัวรายงาน