นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เป็นห่วงเรื่องเงินเฟ้อและหนี้สาธารณะ หลังจากได้รับทราบนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่เน้นเรื่องประชานิยม เนื่องจากทำให้คาดการณ์เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ซึ่งคงต้องติดตามหลังการเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองที่ใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียงจะมีการดูแลควบคุมเงินเฟ้ออย่างไร
ส่วนกรณีมีข่าวว่า ธปท.รายงานว่า เงินสะพัดเป็นหมื่นล้านบาทในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ทางธปท.ไม่ได้แจ้งข้อมูลต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ว่ามีเงินออกจากระบบ 1 หมื่นล้านบาทในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ ธปท.ก็ยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เงินมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบเงินในระบบที่มีมูลค่า 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็นไม่ถึง 1% แต่ยอมรับว่ากรณีดังกล่าวตรวจสอบได้ยาก แต่หากมีการแจ้งเบาะแสเฉพาะจุด ธปท.จะสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น และพร้อมให้ความร่วมมือเข้าตรวจสอบตามที่มีหน่วยงานแจ้ง
สำหรับกรณีเงินจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ส่วนใหญ่เป็นเงินที่ข้ามาลงทุนก็มีการไหลเข้าไหลออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมามีเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาในไทยแล้วประมาณ 5 หมื่นล้านบาท
ผู้ว่าธปท. กล่าวถึงการขายหุ้นกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ที่มีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯว่า กองทุนฟื้นฟูฯ พร้อมจะลดสัดส่วนการถือหุ้นตามความต้องการของประชาชน แต่ต้องดูก่อนว่าทางที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) จะเสนอมาอย่างไร