ยอดบริษัทล้มละลายญี่ปุ่นเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกหลังเกิดภัยพิบัติ

บริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช เปิดเผยว่า จำนวนของบริษัทที่ละลายในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนมากขึ้นในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2552 โดยยอดบริษัทล้มละลายของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.89% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 1,071 แห่ง ส่วนมากเป็นเพราะเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การล้มละลายของธุรกิจที่เกิดจากภัยพิบัตินั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 64 แห่ง และสถิติสะสมหลังเหตุแผ่นดินไวจนถึงวันอังคารที่อ่านมาอยู่ที่ 156 แห่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดล้มละลายเมื่อปีที่แล้วที่ 144 แห่ง นับตั้งแต่ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ฮันชินเมื่อปี 2538

บริษัทต่างๆที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงนั้น มีแนวโน้มที่จะล้มละลายมากขึ้น

หนี้สินของบริษัทที่ละลายนั้นลดลง 2.72% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีที่ 2.52 แสนล้านเยน ขณะที่บริษัทที่มีหนี้ต่ำกว่า 1 พันล่านเยนหรือสูงกว่านั้น ร่วงลง 13.6% ส่วนบริษัทที่มีหนี้ต่ำกว่า 100 ล้านเยนนั้น คิดเป็นสัดส่วน 72.5% ของจำนวนทั้งหมด นับเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่า บริษัทที่มีขนาดเล็กกว่าสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจได้ดีกว่า

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคนั้นซบเซาหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว โดยธุรกิจที่พบการล้มละลายมากที่สุดนั้นเป็นธุรกิจโรงแรมและโฆษณา

ในบรรดาผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่และขนาดเล็กนั้น มีบริษัทล้มละลาย 29 แห่ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 8 แห่ง ส่วนธุรกิจโฆษณานั้น จำนวนบริษัทล้มละลายพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 18 แห่ง จากเดิมที่ 8 แห่ง ส่วนธุรกิจบริการอาหารนั้นมีบริษัทล้มละลาย 68 แห่ง เพิ่มขึ้นจากระดับ 60 แห่ง