เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวปาฐกถาในการประชุมที่เมืองแอตแลนต้า มลรัฐจอร์เจียเมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากภาคการผลิตชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 1.3% น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหนี้ที่ระดับ 1.4% เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอตัวลง
-- ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.2% ในปี 2554 ก่อนที่จะขยายตัวเร็วขึ้นสู่ระดับ 3.6% ในปี 2555 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะยังคงแข็งแกร่งในปี 2554 ไปจนถึงปี 2555 แม้อัตราการขยายตัวโดยรวมมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากอุปสรรคและความไม่แน่นอนในด้านต่างๆ
-- ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวเพียง 0.1% ในปีนี้ในแง่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 4.0% ในปี 2553 จากผลกระทบของแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
-- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 69.5% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับปีก่อน
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดได้ลดลงสู่ 4.056 แสนล้านเยน (5.07 พันล้านดอลลาร์) จาก 1.33 ล้านล้านเยน ในปีก่อน เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนักจากผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงภายหลังจากการเกิดเหตุภัยพิบัติเมื่อวันที่ 11 มีนาคม
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจลงสู่ระดับ -0.7% ในปี 2554 แต่ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2555 ขึ้นเป็น 2.9%
-- บริษัท โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช เปิดเผยว่า จำนวนของบริษัทที่ละลายในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนมากขึ้นในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2552 โดยยอดบริษัทล้มละลายของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.89% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 1,071 แห่ง ส่วนมากเป็นเพราะเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่นครวอชิงตันว่า เขาและนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี มีความเห็นพ้องต้องกันว่า จะไม่ยอมปล่อยให้วิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดการส่งออกของเยอรมนีในเดือนเม.ย.ร่วงลง 5.5% แตะ 8.43 หมื่นล้านยูโร (1.238 แสนล้านดอลลาร์) จากเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ ขณะที่การนำเข้าลดลง 2.5% แตะ 7.34 หมื่นล้านยูโร ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมนีในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 1.09 หมื่นล้านยูโร
-- ซู เซียนผิง รัฐมนตรีช่วยของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ระบุว่า จีนกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างหนัก อันเนื่องมาจากราคาธัญพืชและน้ำมันในต่างประเทศพุ่งสูงขึ้น