เลือกตั้ง'54:ทีมเศรษฐกิจพรรคใหญ่เปิดนโยบายสานฝันเอาใจรากหญ้า-นักธุรกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 9, 2011 18:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรพจน์ อัศวิวิจิตร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน กล่าวในงาน Thailand Lecture 3rd "WISDOM for change" ว่า นโยบายของพรรคจะสนับสนุนให้มีผู้ประกอบการรายย่อย 1 ล้านรายภายใน 3-5 ปี ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายจะช่วยสร้างแรงงานได้ 3-5 คน/แห่ง ทำให้ทั้งระบบโดยรวมจะมีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น 3-5 ล้านคน

เมื่อความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้นก็จะมีส่วนช่วยให้ค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นได้ตามกลไกอุปสงค์และอุปทาน ทั้งนี้เมื่อความต้องการแรงงานในระบบมีเพิ่มขึ้น รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องแบกรับภาระเรื่องค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำแต่เพียงฝ่ายเดียว และเชื่อว่านโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 350 บาท ภายใน 3 ปีเป็นเรื่องที่พรรคเชื่อว่าจะสามารถทำได้

ขณะเดียวกัน ภาครัฐจำเป็นต้องสนันสนุนการลงทุนของภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย โดยส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์หันมาปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยมากขึ้นกว่ารายใหญ่หรือบริษัทจดทะเบียน เพราะมองว่าบริษัทรายใหญ่ หรือบริษัทจดทะเบียนมีความสามารถในการระดมทุนได้อยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์มักไม่ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการรายย่อยเท่าที่ควร

สำหรับการสร้างอำนาจการแข่งขันของเอกชนและการแข่งขันของประเทศนั้น พรรคมองว่าควรจะเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยรัฐควรรอุดหนุนการปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อกระตุ้นให้เอกชนมีประสิทธิภาพการผลิตที่ทันสมัยสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาประเทศ

นายกรพจน์ มองว่า การพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศจำเป็นต้องอาศัยภาคเอกชนเป็นหลัก รัฐไม่ควรเข้าไปแข่งขันกับเอกชน แต่ควรมีบทบาทสนับสนุนการลงทุนของเอกชน ขณะเดียวกันควรเข้าไปดูแลเรื่องต้นทุนพลังงาน ซึ่งพรรคมีนโยบายการกำหนดเพดานราคาพลังงาน เพื่อช่วยในเรื่องต้นทุนให้ภาคเอกชนสามารถแข่งขันได้

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคจะยังคงนโยบายส่งเสริมการลงทุนให้กับภาคเอกชน โดยเน้นการสร้างสาธารณูปโภคเพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่เชื่อมโยงในภูมิภาค และการผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคอาเซียน

พร้อมกันนี้ จะเพิ่มรายได้ของภาคเกษตรกรรมโดยการพัฒนาและช่วยเหลือให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น รวมถึงโครงการประกันรายได้เกษตรกร คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเป็น 35,000 บาท/คน/ปี ส่วนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ มั่นใจว่านโยบายของพรรคสามารถทำได้ เพราะจะมีการปรับลดภาษีให้ผู้ประกอบการและบริษัทเพื่อให้นำเงินส่วนดังกล่าวมาจ่ายเป็นค่าจ้างแรงงานได้เพิ่มขึ้น

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า พรรคจะใช้นโยบายภาษีเพื่อกระตุ้นให้บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเอกชนในภูมิภาคอาเซียน โดยรัฐบาลจะพยายามสนับสนุนด้วยการเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาค เช่น จีน และ ญี่ปุ่น เพื่อดึงเม็ดเงินจากการลงทุนให้เข้าสู่ประเทศ

ขณะที่นายโอฬาร ไชยประวัติ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จะเน้นนโยบายลดภาษีนิติบุคคลให้ภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนให้เอกชนนำเงินไปสร้างโอกาสในการลงทุนเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้มีความสามารถในการแข่งขันในอนาคต ขณะเดียวกันเห็นว่าสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ควรมีการพัฒนาบทบาทในการส่งเสริมการลงทุนทั้งในและต่างประเทศด้วย

ส่วนภาคเกษตรกรนั้น มีนโยบายจัดทำบัตรเครดิตเกษตรกร โดยกำหนดวงเงินให้เกษตรกรได้ใช้จ่ายซื้อวัตถุดิบที่เกี่ยวกับการเกษตร เช่น ปุ๋ย เชื่อว่าจะส่งผลให้ภาคเกษตรกรรมสามารถเติบโตได้ ขณะที่เกษตรกรมีรายได้เพียงพอและมีความสามารถในการแข่งขันกับทั้งในและต่างประเทศ ขณะเดียวกันมีนโยบายจะส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ