นายบันรี ไคเอดะ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่น กล่าวว่า เศรษฐกิจโดยรวมของญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบมหาศาลหากบริษัทผู้ดูแลเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศ ไม่สามารถฟื้นการดำเนินการที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของบริษัทได้ หลังจากที่เตาปฏิกรณ์เหล่านี้ถูกระงับการใช้งานเพื่อการตรวจสอบเป็นระยะ ขณะที่ประชาชนต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเตาปฏิกรณ์เหล่านี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายไคเอดะ กล่าวแสดงความคิดเห็นดังกล่าวระหว่างการประชุมรัฐมนตรีที่จัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อได้พิจารณาถึงเรื่องการเพิ่มการผลิตของบริษัทที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวและวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกุชิม่า ไดอิจิ จนทำให้ประชาชนเกรงว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนไฟฟ้าในภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่า ตนเองได้แจ้งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆเกี่ยวกับเศรษฐกิจในภาคตะวันตกที่ชะลอตัวลง เนื่องจากการขาดแคลนพลังงานแล้ว ซึ่งภาวะดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูประเทศและเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยรวม
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในบรรดาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชิงพาณิชย์ของญี่ปุ่น 54 แห่งนั้น มีเตาปฏิกรณ์มากกว่า 30 แห่งที่ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ เนื่องจากมีการตรวจสอบสภาพอยู่เป็นระยะ อีกทั้งยังปิดดำเนินการชั่วคราวหลังจากที่เกิดภัยพิบัติเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ยืนยันเมื่อเดือนพ.ค.ว่า โรงงานทั่วประเทศได้ใช้มาตรการฉุกเฉินที่เหมาะสมตามที่ได้มีการสั่งการ เพื่อรับประกันเรื่องความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หากโรงไฟฟ้าเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิขนาดใหญ่