สคร.ล้มดัน"กรุงไทย แอกซ่า"เข้าตลาดหุ้น ทบทวนนโยบายหลังเหลือแค่"สตาร์ฯ"

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 10, 2011 10:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกุลิศ สมบัติศิริ ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า สคร.คงจะต้องกลับมาทบทวนนโยบายในการผลักดันให้ริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือปรับเปลี่ยนแนวทางดำเนินการ หลังจากขณะนี้เหลือเพียงรายเดียวที่มีความเป็นไปได้ คือ บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (โรงกลั่นสตาร์ฯ)

ทั้งนี้ โรงกลั่นสตาร์ฯ มีกลุ่มเชฟรอน ถือหุ้น 64% และ บมจ.ปตท. (PTT) ถือหุ้น 36% ซึ่งที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติไว้แล้ว ดังนั้น สคร.ก็จะเร่งผลักดันให้โรงกลั่นสตาร์ฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ภายในปี 54

ส่วนบริษัท กรุงไทย แอกซ่า ซึ่งมีธนาคารกรุงไทย(KTB)เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่นั้น ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าจะไม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากปัจจุบันการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นต่อเนื่อง มีสภาพคล่องสูง และที่สำคัญผู้ถือหุ้นต่างประเทศไม่เห็นด้วยกับการเข้าตลาดหุ้น

นายกุลิศ กล่าวว่า จากการศึกษาข้อมูลของบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง ยอมรับว่ายังไม่มีความพร้อมในหลายด้านที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญคือความจำเป็นในการระดมทุนเพื่อนำเงินมาลงทุน เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในวงเงินที่ไม่สูงมากนัก แค่หลักสิบล้านบาทเท่านั้น ที่อาจจะพอมีความเป็นไปได้อยู่บ้างก็คงมีแต่บริษัทลูกของการไฟฟ่าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)

"ตอนนี้เหลือแห่งเดียวที่จะกระจายหุ้นเข้าตลาดฯ คือ โรงกลั่นสตาร์ฯ เพราะครม.มีมติอนุมัติไปแล้ว และมีความพร้อมที่สุด ส่วนแห่งอื่นคงไม่มีรายใดเข้าตลาดฯแล้ว...หากจะผลักดันคงต้องดูบริษัทลูกในรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆ เช่น กฟผ. แต่ก็ต้องดูความจำเป็นการระดมเงินด้วย"นายกุลิศ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ