นายเมตตา บันเทิงสุข รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้ปรับลดการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของน้ำมันดีเซลจากผู้ค้าน้ำมันลงอีก 30 สตางค์ต่อลิตร จากเดิมเก็บอยู่ที่ 1.40 บาทต่อลิตร เหลือ 1.10 บาทต่อลิตร โดยมีผลในวันพรุ่งนี้(11 มิ.ย.54) ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าการตลาดสำหรับน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับต่ำ 64 สตางค์ต่อลิตร
หลังจาก กบง.มีมติลดการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ลง 30 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 94 สตางค์ต่อลิตร ทำให้สถานะกองทุนน้ำมันฯ จากเดิมที่มีเงินไหลเข้าวันละ 29.1 ล้านบาท กลับมาติดลบวันละ 5.8 ล้านบาท หรือติดลบเดือนละ 174 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดกองทุนน้ำมันฯ มีเงินสดสุทธิอยู่ที่ 280 ล้านบาท
นอกจากนี้ กองทุนน้ำมันฯ ยังมีภาระชดเชยราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) อีกวันละ 110.8 ล้านบาท หรือเดือนละ 3,300 ล้านบาท จากการนำเข้า LPG บวกกับชดเชยให้โรงกลั่นที่ผลิต LPG เพิ่ม ทำให้สถานะของกองทุนน้ำมันฯ ติดลบมากขึ้น
ด้านนายศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน(องค์การมหาชน) กล่าวว่า หลังจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปค ) คงโควต้าการผลิตน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้น ประกอบกับยังมีความผันผวนทางธรรมชาติ เช่น เกิดสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ภัยแล้งที่ประเทศจีน จึงเป็นห่วงว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ ราคาน้ำมันดีเซลอาจจะสูงขึ้นมาก ทำให้ขณะนี้กำลังพิจารณาหาแผนรองรับสถานการณ์ในอนาคต