นายแอรอน ครอส กรรมการผู้จัดการ นีลเส็น ประเทศไทย กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปี 54 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มขึ้น 4 จุด แตะ 106 เป็นผลมาจากการความคาดหวังต่อโอกาสด้านการงานและสถานภาพทางการเงินที่ดีขึ้น อ้างอิงจากผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคทางอินเตอร์เน็ตทั่วโลกของนีลเส็น
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกนี้ จัดทำขึ้นในช่วงวันที่ 23 มีนาคม — 12 เมษายน 2554 จากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่า 28,000 คน จาก 51 ประเทศ ในทวีปเอเชียแปซิฟิค ยุโรป ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง แอฟริกา รวมทั้งอเมริกาเหนือ ในประเทศไทย ผู้ตอบคำถามคือ ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวน 500 คน
“ในไตรมาสแรกของปี 2554 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศไทยได้รับการกระตุ้นจากการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างมาก จากมุมมองในเชิงบวกต่อความคาดหวังด้านงานและได้รับอิทธิผลเสริมจากความรู้สึกดีเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงิน แต่ภาพที่สวยงามดูเหมือนจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้ เนื่องจาก ผู้บริโภคชาวไทยมีแนวโน้มที่จะรัดเข็มขัดมากขึ้น จากความกังวลในเรื่องค่าอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลให้พวกเขามองหา “ความคุ้มค่า" ในการซื้อสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย"
ในไตรมาสแรกของปีนี้ 64% ของผู้บริโภคชาวไทย ลดค่าใช้จ่ายในการหาสิ่งบันเทิงนอกบ้าน (ซึ่งในไตรมาสที่แล้วมี 44% ที่ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้), ใช้จ่ายน้อยลงในการซื้อเสื้อผ้าใหม่ 52% (เพิ่มขึ้นจาก 47% ในไตรมาสก่อน) นอกจากนี้ 49% ระบุว่าพวกเขาลดค่าใช้จ่ายในด้านการท่องเที่ยวในวันหยุดลง (จากเดิม 33% ในไตรมาสก่อน)
นายแอรอน กล่าวว่า สิ่งนี้น่าจะกระตุ้นให้กลุ่มผู้ค้าปลีก จัดโปรโมชั่นและการแนะนำสิ่งใหม่ๆออกมาให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค นอกจากนี้ จากข้อมูลดัชนีค้าปลีกของนีลเส็น ยังพบการแข่งขันด้านราคาในกลุ่มผู้ค้าปลีกของสินค้าอุปโภคบริโภคที่รุนแรงขึ้นเพื่อแย่งชิงลูกค้าในตลาด ในขณะที่ต้องเสนอสิ่งที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค เมื่อผู้บริโภคซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน กลุ่มผู้ค้าปลีกอาจจะได้รับผลกระทบในเรื่องของกำไรในระยะสั้น หลังจากใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตแล้ว 1 ใน 6 ของผู้บริโภคชาวไทยเลือกที่จะออมเงินเป็นอันดับแรก (ลดลง 12 จุดเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2553) ซึ่งแสดงให้เห็นระดับการลดลงที่มากที่สุดจากตัวเลือกทั้งหมดที่ชาวไทยจะเลือกใช้กับเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น อย่างไรก็ตามผู้บริโภคชาวไทยยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของประเทศที่ประชาชนออมเงินมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ ผลสำรวจของนีลเส็นยังพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยเลือกใช้กับเงินที่เหลือจากการใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นเพิ่มมากขึ้น ในด้าน “การจ่ายหนี้บัตรเครดิตและเงินกู้" (เพิ่มขึ้น 5 จุดจากไตรมาสที่ 4 ปี 2553) รวมทั้ง “การลงทุนในหุ้นและกองทุนรวม" (เพิ่มขึ้น 8 จุด มาอยู่ที่26%)
สำหรับความกังวลในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ได้แก่ ปัญหาสภาพเศรษฐกิจ, ภาวะโลกร้อน, ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น, เสถียรภาพทางการเมือง เป็นต้น