หลี่ จิง กรรมการผู้จัดการและประธานฝ่ายตลาดโลกประจำประเทศจีนของเจพี มอร์แกน คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจีนอาจขยายตัวขึ้นอีกและพุ่งขึ้นสูงสุดในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม จากนั้นจะปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนกันยายน
หลี่กล่าวว่า ผลกระทบของการปรับดอกเบี้ยจะปรากฎให้เห็นภายใน 2 ไตรมาสหลังการปรับอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาอาจส่งผลต่อการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในช่วงครึ่งหลังของปี
ขณะเดียวกันเงินเฟ้อจากการนำเข้ายังคงเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยราคาธัญพืชและน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้การควบคุมเงินเฟ้อเป็นไปอย่างยากลำบากมากขึ้น
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ดัชนี CPI จีนขยายตัวแตะ 5.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน และสูงกว่าระดับ 5.4% ในเดือนเมษายน สำนักข่าวซินหัวรายงาน