สหภาพยุโรป (อียู) แสดงความไม่พอใจอย่างมากกรณีที่รัสเซียไม่ยอมยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผักจากอียู แม้จะมีการยืนยันต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไลแล้วก็ตาม
เพีย อาห์เรนไคลด์ แฮนเซ่น โฆษกหญิงของคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยุโรปไม่พอใจอย่างมากที่รัสเซียยังไม่ยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผักจากอียู ทั้งที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีดิมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย ได้ตกลงกับนายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ว่าจะยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าผักจากอียู หากทางการของอียูสามารถรับประกันความปลอดภัยได้
"มีการระบุต้นตอของเชื้ออีโคไลอย่างชัดเจนและมีการกำจัดออกจากตลาดแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องสั่งห้ามนำเข้าผักจากอียูอีก" โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าว พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียยกเลิกคำสั่งห้าม "ทันที"
รัสเซียเริ่มสั่งห้ามนำเข้าผักจากอียูเมื่อช่วงต้นเดือนหลังมีการระบาดของเชื้ออีโคไล พร้อมโทษอียูที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดไม่เพียงพอแม้ว่าจะขอไปหลายครั้งก็ตาม
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นตลาดส่งออกผักรายใหญ่สุดของอียู โดยทุกปีรัสเซียจะซื้อผักจากอียูจำนวน 1.1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าราว 600 ล้านยูโร (858 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และการส่งออกผักไปรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในสี่ของการส่งออกทั้งหมดของอียู สำนักข่าวซินหัวรายงาน