สสปน.จับมือหอการค้าไทย-สภาหอการค้าฯ ร่วมเป็นพันธมิตรพัฒนาธุรกิจไมซ์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 16, 2011 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน.ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาและเสริมศักยภาพตลาดไมซ์ในประเทศ โดยชูกรอบความร่วมมือ 5 แนวทางสำคัญ หวังกระตุ้นให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 30%

"สสปน.เร่งเดินหน้าปรับโครงสร้างกลยุทธ์การบริหารงาน และพัฒนาแผนงานด้านการตลาดไมซ์ในประเทศแบบครบวงจร โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ตามแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงาน" นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สสปน.กล่าว

ปัจจุบันตลาดไมซ์ในประเทศมีอัตราการเติบโตสูงถึง 20-30% ต่อปี และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดย สสปน.มีแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงาน ได้แก่ การดึงงาน(Win), การส่งเสริมการตลาด(Promote) และการประชาสัมพันธ์(Promote)

"การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในครั้งนี้จะเป็นกลยุทธ์การดำเนินงานที่สำคัญในด้านการส่งเสริมการตลาด โดยเฉพาะตลาดไมซ์ในประเทศของ สสปน.และขับเคลื่อนให้ตลาดไมซ์ในประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง" นายอรรคพล กล่าว

ผู้อำนวยการ สสปน.กล่าวว่า ที่ผ่านมา สสปน.ได้เร่งดำเนินงานกระตุ้นตลาดไมซ์ในประเทศร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในทุกภาคส่วน และความร่วมมือร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะส่งผ่านองค์ความรู้ แนวทางการปฏิบัติ และกระตุ้นการมีส่วนร่วมไปยังหน่วยงานภาคเอกชนให้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของตลาดไมซ์ในประเทศในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของตน ซึ่ง สสปน.มั่นใจว่าในปี 2558 ตลาดไมซ์ในประเทศ หรือ Domestic MICE จะไม่ได้หมายรวมถึงประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโอกาสทางการตลาดสำหรับประชากรกว่า 880 ล้านคน จากกลุ่มประเทศอาเซียนและจีนตอนใต้ และจะมีอัตราการเติบโตของตลาดไมซ์ในประเทศอีก 100% จากปี 2552

ขณะที่นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีความมั่นใจเรื่องเศรษฐกิจของประเทศจะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 4-5% ตามที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากปัจจัยบวกหลายประการ และเพื่อให้สามารถบรรลุได้ตามเป้าหมาย และแนวทางสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี คือ การเร่งส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ อันจะขยายผลสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระดับมหภาค และอุตสาหกรรมไมซ์ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพสำคัญ อันมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

"การผลักดันและพัฒนาตลาดไมซ์ในประเทศเป็นแนวนโยบายและแผนงานที่รัฐบาลและเอกชนให้การผลักดันและสนับสนุนร่วมกันอย่างเต็มที่ ซึ่งทุกภาคส่วนเห็นพ้องกันว่า ตลาดไมซ์ในประเทศเป็นเสมือนเสาหลักให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย และเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพที่เป็นปัจจัยบวกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ" นายดุสิต กล่าว

ทั้งนี้ สสปน.คาดว่า ในปี 54 อุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศจะเติบโตเพิ่มขึ้น 30% โดยคาดว่าจะมีผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศ จำนวน 2.5 ล้านคน สร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจประมาณ 17,500 ล้านบาท

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะช่วยกันยกระดับและขับเคลื่อนตลาดไมซ์ในประเทศเพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาเศรษฐกิจไทยในองค์รวม โดยมุ่งเน้นกรอบความร่วมมือใน 5 แนวทาง ได้แก่ 1.การสร้างการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมไมซ์ในประเทศ 2.การส่งเสริมให้เกิดการจัดประชุมในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ 3.การสร้างความรู้ความเข้าใจต่ออุตสาหกรรมไมซ์ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ 4.การร่วมกันจัดกิจกรรมเพิ่มเสริมศักยภาพของไทยสู่ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมไมซ์ และ 5.การร่วมกันดำเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นส่งเสริมความรับผิดขอบต่อสังคม(CSR) และตระหนักในผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

"กรอบแนวทางความร่วมมือร่วมกับ สสปน. ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานด้านยุทธศาสตร์เศรษฐกิจของประเทศไทยของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และทางหอการค้าไทยจะให้การสนับสนุนตลาดไมซ์ในประเทศไปพร้อมๆ กับการส่งเสริมการมีส่วนร่วม และเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านเครือข่ายหอการค้าทั่วประเทศไทยเพื่อให้เข้าใจและเล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ พร้อมๆ กับการส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมไมซ์ในทุกภูมิภาค ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสนับสนุนการเติบโตของตลาดไมซ์ในประเทศแล้ว แต่ยังช่วยขับเคลื่อนและกระตุ้นให้จีดีพีของประเทศได้ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีก 4-5% ได้ตามเป้า" นายดุสิต กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ