ผลสำรวจรายไตรมาสของธนาคารกลางจีนเผยว่า คนเมืองที่ฝากเงินในธนาคารและไม่พอใจระดับเงินเฟ้อมีจำนวนมากขึ้นในไตรมาส 2 แต่ผู้ที่เชื่อว่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้นมีจำนวนลดลง
ผลสำรวจคนเมืองที่ฝากเงินในธนาคารจำนวน 20,000 คน ใน 50 เมืองใหญ่ พบว่า 68.5% เห็นว่าระดับเงินเฟ้อในไตรมาส 2 "สูงจนรับไม่ได้" หรือเพิ่มขึ้น 1.3% จากการสำรวจในไตรมาสแรก ขณะที่ 45.4% เชื่อว่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในไตรมาส 3 หรือลดลง 1.7% จากไตรมาสแรก
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นปัจจัยชี้วัดเงินเฟ้อ ทะยานแตะ 5.5% เมื่อเทียบรายปีในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน และเพิ่มขึ้นจากระดับ 5.3% ในเดือนเมษายน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งทะลุ 6% ในเดือนมิถุนายน
เมื่อวันอังคารธนาคารกลางจีนตัดสินใจประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 0.50% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ นับเป็นการปรับขึ้นเพดาน RRR เป็นครั้งที่ 6 แล้วในปีนี้ นอกจากนั้นยังมีการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้งในปีนี้
ผลสำรวจยังเผยว่า 83% ของคนเมืองต้องการเอาเงินเข้าธนาคาร (ฝากเงิน ลงทุนในพันธบัตรและหุ้น) ขณะที่ 17% ต้องการเอาไปใช้
สำหรับการลงทุนนั้น อสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นทางเลือกแรกสำหรับผู้ตอบแบบสอบถาม 22.2% แต่ลดลง 2.8% จากไตรมาสแรก ขณะเดียวกันผู้ตอบแบบสอบถาม 74.3% เห็นว่าราคาที่อยู่อาศัยในไตรมาส 2 "สูงเกินกว่าจะซื้อได้" ซึ่งเท่าๆกับการสำรวจในไตรมาสแรก
ผู้ตอบแบบสอบถามกว่าหนึ่งในสามคาดว่าราคาบ้านจะทรงตัวในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่ 25.9% เชื่อว่าราคาบ้านจะสูงขึ้น ส่วน 18.9% เชื่อว่าราคาบ้านจะลดลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน