นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางการรักษาสิทธิวงโคจรดาวเทียมว่า เบื้องต้น บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้มีประสานงานหารือแนวทางการดำเนินการกับผู้ประกอบการด้านดาวเทียมไว้บ้างแล้ว คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเช่าดาวเทียมมาจองตำแหน่งเอาไว้ หรืออาจเจรจากับบริษัทผู้ผลิตและจัดส่งดาวเทียมให้จัดหาดาวเทียมสำรองมาประจำตำแหน่งเพื่อรักษาสิทธิให้ก่อนจัดสร้างดาวเทียมดวงจริง
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถจัดหาดาวเทียมดวงใหม่ของประเทศไทยได้ภายในเดือนสิงหาคม - กันยายนนี้เป็นอย่างช้า ซึ่งประเทศไทยคงต้องรักษาสิทธิที่ตำแหน่งดังกล่าว โดยทำตามคำแนะนำของ ไอทียู ที่ต้องมีดาวเทียมมาไว้ยังตำแหน่งนี้ชั่วคราวเป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือมากกว่านั้น จนกว่าจะมีดาวเทียมดวงใหม่ของประเทศไทยขึ้นใช้งานต่อไป
สำหรับสิทธิวงโคจรดาวเทียมอื่นที่ยังไม่มีดาวเทียม 3 ตำแหน่ง ได้แก่ 50.5 องศา 126 องศา และ 142 องศา นั้นยังมีเวลาที่จะดำเนินการแต่ก็ต้องพิจารณาดำเนินการควบคู่ไปกับตำแหน่ง 120 องศา โดยเฉพาะที่ 50.5 องศานั้นก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยก็จะมีดาวเทียมไทยคม 6 อีกหนึ่งดวง ซึ่งคาดว่าน่าจะเพียงพอต่อความต้องการในระยะสั้น
ส่วนการวางแผนระยะยาว กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้ บมจ.กสท โทรคมนาคม ไปดำเนินการศึกษาแนวทางการใช้และรักษาสิทธิวงโคจรทั้ง 4 ตำแหน่งดังกล่าว โดยเฉพาะในตำแหน่งวงโคจรที่ 120 องศานั้น ขอให้ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อให้สามารถนำเสนอแนวทางการดำเนินการแก่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณาได้ทันที
ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะจัดทำรายงานสรุปผลการประชุมร่วมกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 54 เสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบในสัปดาห์หน้า หรือ สัปดาห์ถัดไปเป็นอย่างช้า
"ขณะนี้เหลือเวลาในการดำเนินงานเรื่องนี้น้อยมาก จึงต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการรักษาตำแหน่ง วงโคจร ทั้งหมดไว้ให้ได้ โดยเฉพาะ กสทช. ควรให้ความร่วมมือกับกระทรวงฯ เนื่องจากในอนาคตความถี่ดาวเทียมก็จะอยู่ในการดูแล ของ กสทช. ตามอำนาจหน้าที่ ส่วนวงโคจรเพื่อใช้วางดาวเทียมยังคงเป็นของรัฐบาลตามกฎหมายระหว่างประเทศด้านอวกาศ" นางจีราวรรณ กล่าว