ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศลักเซมเบิร์ก เรียกร้องให้รัฐบาลกรีซใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลังและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก่อนที่จะได้รับเงินเบิกจ่ายภายใต้มาตรการช่วยเหลือครั้งใหม่ ภายในกลางเดือนก.ค.นี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนระบุว่า การเบิกจ่ายเงินกู้งวดต่อไปของกรีซนั้น จะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและสหภาพยุโรป (อียู) ภายใต้การประสานงานร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และจะขึ้นอยู่กับการนำมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่มาใช้โดยรัฐสภากรีซ
"การผ่านร่างกฎหมายยุทธศาสตร์ด้านการคลังและแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยรัฐสภากรีซ จะปูทางไปสู่การรับเงินเบิกจ่ายงวดใหม่ภายในช่วงกลางเดือนก.ค." แถลงการณ์จากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนซึ่งใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมง ระบุ
เดิมทีนั้น การเบิกจ่ายเงินกู้งวดที่ 5 ซึ่งมีมูลค่าราว 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้น ได้ถูกกำหนดว่าจะส่งมอบให้กรีซในเดือนนี้ เพื่อที่กรีซจะสามารถจ่ายหนี้พันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน แต่แผนการจ่ายเงินกู้ดังกล่าวได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากกรีซยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการใช้มาตรการรัดเข็มขัด
ทั้งนี้ เงินกู้ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของวงเงินกู้รวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซที่อนุมัติโดยอียูและไอเอ็มเอฟเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อแลกกับการที่กรีซจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดและปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดการขาดดุลการคลังตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้