ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนตัดสินใจเลื่อนการเบิกจ่ายเงินงวดใหม่ของกรีซออกไปเป็นช่วงกลางเดือนก.ค.จนกว่ารัฐบาลกรีซจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลังและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4301 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4308 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.03% แตะที่ 1.6199 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6194 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.270 เยน จากระดับ 80.040 เยน แต่ร่วงลง 0.31% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8462 ฟรังค์ จากระดับ 0.8488 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.55% แตะที่ 1.0568 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0626 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.46% แตะที่ 0.8090 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8127 ดอลลาร์สหรัฐ
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปและสถานะการคลังของกรีซยังคงทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในมูลค่าของสกุลเงินยูโร โดยล่าสุดมีรายงานว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจเลื่อนการเบิกจ่ายเงินงวดใหม่มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของกรีซออกไปเป็นช่วงกลางเดือนก.ค.จนกว่ารัฐบาลกรีซจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลังและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเดิมทีนั้น การเบิกจ่ายเงินกู้ดังกล่าวได้ถูกกำหนดว่าจะส่งมอบให้กรีซในเดือนมิ.ย. แต่การเบิกจ่ายได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากกรีซยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการใช้มาตรการรัดเข็มขัด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนระบุว่า การเบิกจ่ายเงินกู้งวดต่อไปของกรีซนั้น จะขึ้นอยู่กับผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและสหภาพยุโรป (อียู) ภายใต้การประสานงานร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และจะขึ้นอยู่กับการนำมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่มาใช้โดยรัฐสภากรีซ
นอกจากนี้ ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนยังมีมติเห็นชอบให้ธนาคารเอกชนที่ถือพันธบัตรของกรีซเข้ามามีส่วนในมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองด้วยความสมัครใจ รวมถึงการซื้อพันธบัตรใหม่โดยสมัครใจเมื่อพันธบัตรชุดปัจจุบันครบกำหนดไถ่ถอน
นักลงทุนจับตาดูการประชุมสุดยอดผู้นำอียูซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพฤหัสบดีนี้ และจับตาดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับ 0-0.25% และคาดว่าเฟดจะยืนยันให้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) หมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้
สถาบัน Ifo จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในวันศุกร์นี้ โดยมีการคาดว่าดัชนีอาจร่วงลงสู่ระดับ 113.5 จุดในเดือนมิ.ย. จากระดับ 114.2 จุดของเดือนพ.ค.
ส่วนทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค., ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกปีนี้ และจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.