China Todayข่าวธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจีนประจำวันที่ 21 มิถุนายน 2554

ข่าวต่างประเทศ Tuesday June 21, 2011 10:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ ของจีนรายงานว่า มณฑลเหอหนานในภาคกลางของจีนคาดว่าจะมีผลผลิตธัญพืชในปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วที่ 30.9 ล้านตัน

นอกจากนี้ พีเพิลส์ เดลี่ ยังรายงานว่า มณฑลชานตงในภาคตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสองของจีน มีแนวโน้มที่จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนปีนี้ เนื่องจากมีผลผลิตโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น

ก่อนหน้านี้ สื่อรายงานว่า มณฑลเหอเป่ย์และอันฮุย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 3 และ 4 ของจีน ต่างก็มีผลผลิตเพิ่มขึ้นในปีนี้

-- กระทรวงเกษตรของจีนรายงานว่า จีนเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเสร็จเรียบร้อยไปแล้วเกือบ 90% ณ เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ข้อมูลสถิติของกระทรวงฯ บ่งชี้ว่า จีนเก็บเกี่ยวข้าวสาลีไปแล้วทั้งหมด 20.67 ล้านเฮคตาร์ ณ วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยพื้นที่จำนวน 17.93 ล้านเฮคตาร์ หรือ 86.9% เป็นการเก็บเกี่ยวโดยใช้เครื่องจักร

ปัจจุบัน การเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในแหล่งผลิตหลักทั้ง 5 แหล่งของประเทศกำลังคืบหน้าไปด้วยดี โดยมณฑลอันฮุยและเหอหนานได้เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว ในขณะที่มณฑลเจียงซู ชานตง และ เหอเป่ย์ กำลังเข้าสู่ช่วงของการเก็บเกี่ยวที่มีปริมาณสูงสุด

-- สำนักงานควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันของจีน (AQSIQ) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าติดตามคุณภาพของจีน เปิดเผยว่า ทางสำนักงานฯ ได้ตัดสินใจแก้ไขข้อจำกัดในการนำเข้าอาหารและผลิตภัณฑ์การเกษตรจากญี่ปุ่นที่กำหนดขึ้นหลังเกิดเหตุวิกฤตินิวเคลียร์อันเป็นผลเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม

AQSIQ ระบุว่า การแก้ไขดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ช่วยผ่อนคลายข้อจำกัดในการนำเข้าอาหารจากญี่ปุ่นที่ได้รับสถานะผ่านการประเมินความเสี่ยงจากสารกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อนโดยสมบูรณ์แล้ว รวมทั้งอาหารแปรรูปจากพื้นที่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมา

-- ราคาสัญญาสินค้าเกษตร ณ ตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ต้าเหลียงและเจิ้งโจวปิดตลาดผันผวนเมื่อวานนี้ ในขณะที่การซื้อขายทั่วไปตึงตัวเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางจีนอาจใช้มาตรการดูดซับสภาพคล่องเพิ่มเติม ณ สิ้นเดือนนี้

หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตี้ส์ เจอร์นัล รายงานโดยอ้างคำพูดของนายจาง เชงหุย นักวิจัยจากสำนักวิจัยเพื่อการพัฒนาในสังกัดรัฐสภาว่า จีนควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปีนี้เพื่อสกัดอัตราเงินเฟ้อ โดยแหล่งข่าววงในบางรายเชื่อว่า อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ณ สิ้นเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคม เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็มมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปี โดยคาดว่าจะทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในเดือนมิถุนายนเนื่องจากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ