ทำเนียบขาวเปิดเผยแถลงการณ์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ซึ่งย้ำถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐในการเปิดรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งเป็นความพยายามหนึ่งเพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการจ้างงาน
"คณะบริหารของผมยึดมั่นต่อพันธะสัญญาที่จะทำให้สหรัฐอเมริกายังคงเป็นแหล่งลงทุนที่น่าดึงดูดใจที่สุดในการก่อตั้งธุรกิจ ลงทุน ขยายธุรกิจ และสร้างงาน" โอบามาระบุในแถลงการณ์ว่าด้วยพันธกรณีของสหรัฐที่มีต่อนโยบายเปิดรับการลงทุน
"เราสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนด้านธุรกิจจากแหล่งลงทุนทั้งในและต่างประเทศ การลงทุนจากบริษัทและนักลงทุนต่างชาติทำให้เกิดการจ้างงานที่มีรายได้ดี ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพิ่มผลิตภาพ และช่วยเหลือชุมชนชาวอเมริกัน"
โอบามากล่าวว่า สหรัฐอเมริกาเผชิญกับการแข่งขันด้านตำแหน่งงานและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ท่ามกลางบริบทของเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น
"การเดินหน้าเพื่อรับประกันว่าเราจะยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นตัวเลือกของนักลงทุนทั่วโลก จะช่วยให้เราเป็นผู้ชนะการแข่งขันดังกล่าว และสิ่งนี้จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประชาชนของเรา" โอบามากล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า นโยบายนี้จะสอดคล้องกับความมั่นคงของชาติ และจะเป็นการสร้างหลักประกันด้านการแข่งขันที่เป็นธรรมสำหรับนักลงทุนชาวอเมริกันด้วย
ทำเนียบขาวเผยว่า สาขาของบริษัทต่างชาติในสหรัฐได้ว่าจ้างพนักงานชาวอเมริกันกว่า 5 ล้านตำแหน่ง และให้ค่าตอบแทนสูงกว่าอัตราเฉลี่ย บริษัทเหล่านี้ลงทุนในด้านนวัตกรรมในสหรัฐ โดยใช้เงินกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการวิจัยและพัฒนาในแต่ละปี
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวช้าลงในอัตรา 1.8% ในไตรมาสแรกของปี 2554 ขณะที่ อัตราว่างงาน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 9.1% นั้น คาดว่าจะยังไม่ลดลงมากนักในอนาคตอันใกล้นี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน