สหภาพยุโรป (อียู) มีท่าทีคลายความกังวลลงบ้างแล้วในวันนี้ หลังจากรัฐสภากรีซได้ลงมติไว้วางใจรัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ซึ่งจะปูทางไปสู่การใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติม เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป
"การที่รัฐสภากรีซลงมติไว้วางใจรัฐบาลในวันนี้ ได้ช่วยขจัดความไม่แน่นอนให้ออกไปจากสถานการณ์ที่ยุ่งยากในเวลานี้ และถือเป็นขาวดีสำหรับกรีซและประเทศสมาชิกอียูทั้งหมด" นายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวภายหลังจากที่รัฐสภากรีซมีมติไว้วางใจนายปาปันเดรอูและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 155 ต่อ 143 เสียง
นายบาร์โรโซกล่าวว่า นายปาปันเดรอูและรัฐบาลชุดใหม่จะต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมดในการโน้มน้าวให้รัฐสภาสนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดและปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยรัฐสภากรีซมีกำหนดจะอภิปรายเพื่อลงมติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หากรัฐสภากรีซมีมติไม่ผ่านร่างกฎหมายการลดงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 2.8 หมื่นล้านยูโร (4.032 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ), การปรับขึ้นภาษี และโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจมูลค่า 5 หมื่นล้านยูโร (7.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ก็จะส่งผลให้กรีซไม่สามารถรับเงินเบิกจ่ายเงินกู้งวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากอียูและไอเอ็มเอฟ
เงินเบิกจ่ายงวดที่ 5 นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้วงเงินกู้รวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ที่อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อให้กรีซสามารถรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ในเวลานั้น