นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ 0-0.25% ในการประชุมคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย และเฟดอาจจะประกาศให้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) หรือโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ หมดอายุลงตามกำหนดในช่วงสิ้นเดือนนี้
นอกจากนี้ คาดว่าเฟดจะเน้นย้ำคำมั่นสัญญาเรื่องการถือครองหลักทรัพย์ไว้ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเชื่อว่าหลักทรัพย์จำนวนมากนี้จะทำให้เฟดยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ แม้เฟดไม่ได้เพิ่มการถือครองหลักทรัพย์มาระยะหนึ่งแล้วก็ตาม
นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะเปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจครั้งล่าสุดภายหลังการประชุมในครั้งนี้ โดยเชื่อว่าเฟดจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจลงเล็กน้อย ขณะเดียวกันเฟดอาจจะคาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารจะยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
ทั้งนี้ นักลงทุนและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จับตาดูนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด จะจัดการแถลงข่าวหลังการประชุมเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ โดยคาดว่าเบอร์นันเก้จะแถลงเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่า เบอร์นันเก้จะจัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนสี่ครั้งในแต่ละปี
ส่วนในการประชุมเฟดครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น เบอร์นันเก้คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 3.1-3.3% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.9% อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐ โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.4% ภายในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.8% และคาดว่าอัตราว่างงานในปี 2555 จะลดลงสู่ระดับ 7.6-7.9%