ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งหลัง"เบอร์นันเก้"ไม่ส่งสัญญาณใช้ QE3

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 23, 2011 07:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) หลังจากมาตรการ QE2 หมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนนี้ แม้เบอร์นันเก้มองว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงในปีหน้าก็ตาม

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4347 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4406 ยูโร ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 1.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.6064 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6242 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.330 เยน จากระดับ 80.260 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8393 ฟรังค์ จากระดับ 0.8404 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.19% แตะที่ 1.0569 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0589 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.21% แตะที่ 0.8138 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8121 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากเบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) หลังจากมาตรการ QE2 หมดอายุลงในช่วงสิ้นเดือนนี้ แม้เบอร์นันเก้ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงเผชิญกับความเสี่ยงที่จะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงในปีหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะอ่อนแอของตลาดที่อยู่อาศัยและภาคการเงิน

เบอร์นันเก้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนครั้งล่าสุดว่า ผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นซึ่งมีต่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะ "บรรเทาลง" ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนปัญหาหนี้กรีซนั้น เบอร์นันเก้มองว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก หากกรีซผิดนัดชำระหนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรปและจะกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย

ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งสิ้นสุดเมื่อวานนี้ คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมกับยืนยันว่าจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายนประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริง ลงสู่ระดับ 2.7-2.9% ในปี 2554 จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.1-3.3% และคาดว่าอัตราว่างงานโดยเฉลี่ยในสหรัฐจะอยู่ที่ 8.6-8.9% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 8.4-8.7%

นักลงทุนจับตาดูดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีซึ่งสถาบัน Ifo จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยมีการคาดว่าดัชนีอาจร่วงลงสู่ระดับ 113.5 จุดในเดือนมิ.ย. จากระดับ 114.2 จุดของเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกปีนี้ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ