ธนาคารกลางจีนประกาศระงับการออกตั๋วเงินคลังในวันนี้ ซึ่งเป็นการระงับการออกตั๋วเงินคลังครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ โดยการออกตั๋วเงินคลังมีเป้าหมายที่จะอัดฉีดสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ในประเทศ เพื่อบรรเทาภาวะตึงตัวด้านการเงินในตลาด
สำหรับการทำธุรกรรมในตลาดเปิดตามขั้นตอนปกติในสัปดาห์นี้ ธนาคารกลางจีนได้นำตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปีมูลค่า 1 พันล้านหยวน (154 ล้านดอลลาร์) ออกจำหน่ายเฉพาะในวันอังคารที่ผ่านมาเท่านั้น โดยให้อัตราผลตอบแทน 3.4019%
การออกตั๋วเงินคลังและการทำธุรกรรมซื้อคืนตั๋วเงินคลัง เป็น 2 เครื่องมือที่สำคัญที่ธนาคารกลางจีนนำมาใช้ในการดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบการธนาคาร โดยผ่านการทำธุรกรรมในตลาดเปิด
นายหู เชา นักวิเคราะห์จากบริษัท ซันไชน์ อินชัวรันซ์ กรุ๊ป คอร์ป กล่าวว่า "การที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจระงับการออกตั๋วเงินคลังในวันนี้ มีความเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ในตลาดเซี่ยงไฮ้ (Shibor) สภาพคล่องในตลาดการเงินของจีนตึงตัวมากในช่วงที่ผ่านมา และธนาคารกลางจีนกำลังถูกกดดันให้ต้องใช้มาตรการ"
คณะกรรมการกำกับดูแลระบบการซื้อขายด้านปริวรรตเงินตราของจีนระบุว่า ในช่วงเช้าวันนี้ อัตราดอกเบี้ย Shibor พุ่งขึ้น 0.3325% แตะที่ 7.47% ส่วนอัตราดอกเบี้ย Shibor ประเภท 1 สัปดาห์ พุ่งขึ้น 0.5083% แตะที่ 8.835%