World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Friday June 24, 2011 06:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์พุ่งขึ้นเกินคาด และยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลงในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากที่ตลาดถูกกดดันอยู่ก่อนแล้วจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ร่วงลงกว่า 4 ดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 59.67 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 12,050.00 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 3.64 จุด หรือ 0.28% แตะที่ 1,283.50 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 17.56 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 2,686.75 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังจาก 28 ชาติสมาชิกเครือข่ายสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งรวมถึงสหรัฐด้วยนั้น ประกาศว่าจะระบายน้ำมันดิบบางส่วนจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์เข้าสู่ตลาด เพื่อบรรเทาภาวะอุปทานพลังงานตึงตัว ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในลิเบีย

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 4.39 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 91.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 94.47 89.70 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 32.90 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,520.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,515.00-1,549.60 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐยังไร้ทิศทาง โดยเมื่อคืนนี้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงเกินคาด ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง แต่ก็สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวันได้ หลังจากคณะรัฐมนตรีกรีซมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายรัดเข็มขัดระยะ 5 ปี ซึ่งจะทำให้กรีซได้รับเงินกู้เพิ่มเติมจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.66% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.4258 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.4353 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.40% แตะที่ 1.6008 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6072 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้น 0.34% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.560 เยน จากระดับ 80.290 เยน แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.12% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8385 ฟรังค์ จากระดับ 0.8395 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.49% แตะที่ 1.0521 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0573 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.04% แตะที่ 0.8142 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8145 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ต่อจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตือนว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนอาจส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารของยุโรป

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5674.38 จุด ร่วงลง 98.61 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ