หนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้ ซิเคียวริตี้ส์ นิวส์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า อัตราการเติบโตของผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมเหล็กของจีนกำลังชะลอตัวลง และอุตสาหกรรมกำลังมีสภาวะทางธุรกิจที่ย่ำแย่ลงอีก ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของสต๊อกสินแร่คงค้างที่ท่าเรือ
ทั้งนี้ สต๊อกสินแร่เหล็กของจีนได้ทำสถิติทะลุระดับ 90 ล้านตัน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นโยบายการเงินที่รัดกุมมากขึ้นได้เพิ่มแรงกดดันต่อทุนการดำเนินงานของโรงถลุงเหล็กและนำไปสู่ยอดสั่งซื้อที่ลดลง ซึ่งจะส่งผลสืบเนื่องถึงการผลิตเหล็กต่อไป
ในขณะเดียวกัน ยอดการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กจะลดลงเป็นปกติในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมเหล็กลดลง
แรงกดดันจากนโยบายที่รัดกุมยังทำให้บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของประเทศ เช่น เป๋าสตีล, หวูฮั่น สตีล และอันกัง ต้องปรับลดราคาผู้ผลิตสำหรับเหล็กม้วนและเหล็กแผ่นลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาเหล็กแท่ง ซึ่งแข็งแกร่งท่ามกลางการลดลงของราคาผลิตภัณฑ์เหล็กอื่นๆในช่วงก่อนหน้านี้ ก็ได้เริ่มปรับตัวลดลงติดต่อกัน 2 สัปดาห์ที่ราว 3%
ส่วนราคาสินแร่เหล็กได้ปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะดีดตัวปานกลางในช่วงต้นเดือนมิถุนายน แต่อย่างไรก็ตาม การดีดตัวต้องหยุดลงเนื่องจากตลาดเหล็กที่ซบเซา
อย่างไรก็ดี เฉิง จือเฉิง นักวิเคราะห์จากซิเปิน นิว ไลน์ กล่าวว่า จีนมีแนวโน้มที่จะเร่งก่อสร้างโครงการบ้านราคาถูกในช่วงไตรมาสสามนี้ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มอุปสงค์ผลิตภัณฑ์เหล็กในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเห็นผลอย่างชัดเจนในการผลักดันอุปสงค์เหล็กเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม-กันยายน สำนักข่าวซินหัวรายงาน