ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า หากรัฐสภากรีซไม่ผ่านร่างกฎหมายรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ก็จะทำให้กรีซไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ในที่สุด นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังถูกกดดันจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ขู่ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารอิตาลี
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.59% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4173 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4257 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.28% สู่ระดับ 1.5962 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6007 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.450 เยน จากระดับ 80.530 เยน และอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8370 ฟรังค์ จากระดับ 0.8381 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.41% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0487 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0530 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.57% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8095 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8141 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ แม้คณะรัฐมนตรีมีมติผ่านร่างกฎหมายมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีและได้บรรลุข้อตกลงการใช้มาตรการดังกล่าวกับไอเอ็มเอฟและอียูแล้วก็ตาม แต่มาตรการดังกล่าวจะต้องได้รับการรับรองในที่ประชุมรัฐสภากรีซ ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านของกรีซได้ออกมาต่อต้านมาตรการดังกล่าวอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าความขัดแย้งทางการเมืองอาจทำให้รัฐสภาไม่ผ่านร่างกฏหมายดังกล่าว
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรปทวีความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อมูดีส์ประกาศเครดิตพินิจสำหรับธนาคารเอกชน 16 แห่งของอิตาลี และสถาบันการเงินของรัฐบาลอิตาลีอีก 2 แห่ง โดยเตือนว่าธนาคารเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศปรับเพิ่มการประมาณการอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาสแรกปีนี้เป็น 1.9% จากการประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 1.8% เพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคเอกชนปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง
สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีขยายตัวแตะ 114.5 จุดในเดือนมิถุนายน จากระดับ 114.2 จุดในเดือนพฤษภาคม สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัวลง นอกจากนั้น ความเชื่อมั่นยังอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 115.4 จุดซึ่งทำไว้ในเดือนกุมภาพันธ์