นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เผยนัดประชุมด่วนคณะกรรมการบริหารเชื้อเพลิงในวันพรุ่งนี้(27 มิ.ย.) เพื่อประเมินสถานการณ์และบริหารเชื้อเพลิง หลังเกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยของ บมจ.ปตท.(PTT) รั่วเมื่อช่วงเย็นวานนี้(25 มิ.ย.)
ทั้งนี้ ปตท.ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวให้ตนเองทราบแล้ว และได้สั่งการให้เร่งแก้ปัญหา โดย ปตท.ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์และแก้ไขโดยทันที ตลอดจนประสานงานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ในการจัดส่งเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซฯ ที่หายไปจากระบบ ซึ่งเป็นไปตามแผนภาวะฉุกเฉินที่กระทรวงพลังงานดำเนินการอยู่แล้ว
"ไม่มีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า ไฟฟ้าไม่ขาดแคลน และจากการรายงานเบื้องต้นพบว่า ปริมาณก๊าซฯที่หายไปจะไม่กระทบต่อการจำหน่ายเอ็นจีวีให้ขาดแคลน เหมือนกับกรณีเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนที่ก๊าซพม่าฯ หยุดส่งเพราะปัญหามรสุมในทะเล ส่วนต้นทุนค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกกูเลเตอร์)จะพิจารณา" นายณอคุณ กล่าว
ด้านนายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า กฟผ.กล่าวว่า ปตท.ได้แจ้งว่าปริมาณก๊าซฯ ที่ส่งให้จะลดลง 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่ง กฟผ.ได้เปลี่ยนเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าบางปะกง 3 โรง โดยใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงทดแทน ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า