พาณิชย์เตือนผู้ส่งออกระวังหลังจีนห้ามใช้สาร BPA ผลิตขวดนมและสินค้าเด็ก

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.54 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขแห่งชาติจีนประกาศห้ามใช้สาร BPA (Bisphenol A) ในการผลิตขวดนมสำหรับเด็กทุกชนิด และยังห้ามนำเข้าขวดนมเด็ก ภาชนะบรรจุอาหาร หรือเครื่องใช้สำหรับเด็กที่มีส่วนประกอบของสาร BPA โดยเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.54 เป็นต้นไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ เยอรมนี เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และญี่ปุ่น ได้ออกระเบียบจำกัดการใช้สารดังกล่าว ในการผลิตขวดนมเด็ก ภาชนะบรรจุอาหาร และเครื่องใช้สำหรับเด็ก

นอกจากนี้ สวีเดนยังอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนการใช้สารดังกล่าวเคลือบภายในกระป๋องบรรจุอาหาร ซึ่งหน่วยงานเคมีแห่งชาติ และสำนักงานอาหารแห่งชาติ ได้เปิดรับข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการ หน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยจากสารเคมีต่อผู้บริโภค รวมทั้ง เสนอแนวทางการใช้สารอื่นทดแทนสารนี้ และจะส่งรายงานไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อลงความเห็นอีกครั้งภายในวันที่ 15 ส.ค.54 คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ว่าจะยกเลิกการใช้สารนี้อย่างถาวรหรือไม่

"ในปี 53 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกไปจีน 6,133 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.5% เมื่อเทียบกับปี 52 และช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.54 ส่งออกแล้ว 1,648 ล้านบาท ลดลง 19.2% จากช่วงเดียวกันของที่ผ่านมา ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการผลิตสินค้ากลุ่มนี้ไม่ให้มีสาร BPA ปนเปื้อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาถูกเรียกคืนสินค้า ทำลาย และห้ามนำเข้าได้"

สาร BPA เป็นสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของพลาสติกชนิดโพลีคาร์บอเนต ที่ใช้ผลิตเป็นขวดนมสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง ความผิดปกติของทารกแรกคลอด โรคหัวใจ เป็นต้น