นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) กรมส่งเสริมการเกษตร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 เพื่อจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีคุ้มครองเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กรณีได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติต่างๆ ได้แก่ อุทกภัย, ฝนทิ้งช่วง, ลมพายุ, อากาศหนาว, ลูกเห็บ และอัคคีภัย(ไม่รวมภัยจากโรคระบาดและศัตรูพืช)
ทั้งนี้ ความคุ้มครองดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ระยะคือ 60 วันแรกของการเพาะปลูกจะได้รับค่าสินไหมทดแทน ในอัตรา 606 บาท/ไร่ และตั้งแต่วันที่ 61 เป็นต้นไปของการเพาะปลูกจะได้รับค่าสินไหมทดแทน 1,400 บาท/ไร่ โดยคิดเบี้ยประกันภัย 129 บาท/ไร่ ซึ่งรัฐบาลจะช่วยสมทบเงินค่าเบี้ยประกันภัย 69 บาท/ไร่
โดยเกษตรกรที่ไม่ได้เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. จ่าย 60 บาท/ไร่ แต่หากเป็นเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส.จะจ่ายเบี้ยประกันภัยเอง 50 บาท/ไร่ และ ธ.ก.ส.ช่วยสมทบ 10 บาท/ไร่ โดยจะเริ่มขายผ่าน ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.54 เป็นต้นไป
สำหรับการทำประกันภัยนั้น เกษตรกรจะต้องนำเอกสารสิทธิแสดงที่ตั้งแปลงเพาะปลูกเป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งจำนวนพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นที่แปลงเพาะปลูกข้าว บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเกณฑ์การประเมินของรัฐบาลที่ใช้ในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ
"ปัจจุบันการเกิดภัยธรรมชาติมีแนวโน้มที่บ่อยครั้งขึ้นและรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตร การประกันภัยข้าวนาปีดังกล่าวจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงิน เป็นการสร้างความมั่นใจแก่เกษตรกรว่าจะได้รับการคุ้มครองผลผลิตข้าวนาปีหากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ นอกจากนี้จะทำให้เกษตรกรได้เรียนรู้ในการจัดการความเสี่ยงของตนเองด้วยการนำการประกันภัยเข้าไปรองรับ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186" เลขาธิการ คปภ. กล่าว