นพ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้รับทราบรายงานการแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่แพง ตลอดจนสถานการณ์ปัจจุบันที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงและประสานงานกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาปรับลดราคาสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคให้เหมาะสม สอดคล้องกับราคาต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าแต่ละประเภท
สำหรับไข่ไก่ได้มีการออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) ฉบับที่ 4 ปรับราคาขายปลีกไข่ไก่แนะนำลงฟองละ 0.10 บาท ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.54 และจากการติดตามภาวะการผลิตการตลาดปรากฏว่า แม้ปัญหาด้านปริมาณจะคลี่คลายลงระดับหนึ่ง เนื่องจากมีปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดมากขึ้น แต่ผลผลิตส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 60 เป็นไข่ไก่ขนาดกลางและเล็ก ซึ่งเป็นผลผลิตของแม่ไก่ไข่ยืนกรงรุ่นใหม่ที่มาจากพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ที่นำเข้าตามมาตรการเปิดนำเข้าพันธุ์ไก่ไข่เสรีเมื่อเดือน ส.ค.54 เกษตรกรผู้เลี้ยงไข่ไก่ส่วนใหญ่จึงจำหน่ายผลผลิตได้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาประกาศฟองละ 2.90 บาท ซึ่งเป็นราคาไข่ไก่คละใหญ่ ทั้งนี้ได้ประสานองค์กรผู้เลี้ยงไก่ไข่และบริษัทผู้เลี้ยงไข่ไก่รายใหญ่ เพื่อขอความร่วมมือปรับลดราคาไข่ไก่ลง ซึ่งในเบื้องต้นได้รับความร่วมมือปรับลดราคาไข่ไก่คละที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์มในแต่ละขนาด
ส่วนสุกรมีชีวิต ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับค่อนข้างสูง เนื่องจากการเพิ่มปริมาณสุกรทดแทนจำนวนที่สูญเสียจากปัญหาโรคระบาด ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 เดือน แต่ปริมาณสุกรที่ออกสู่ตลาดในระยะต่อไปก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากปัจจัยเอื้ออำนวยด้านสภาพอากาศที่เย็นลง และภาวะโรคระบาดที่คลี่คลายลง
อย่างไรก็ตาม จากการกำหนดมาตรการกำกับดูแลด้านราคา โดยออกประกาศของ กกร.และติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดใกล้ชิดได้ส่งผลให้ราคาขายปลีกเนื้อแดงในตลาดสดทั่วไปปรับลดลงกิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งจะได้ติดตามตรวจสอบและกำกับดูแลการกำหนดราคาให้สอดคล้องกับภาวะอุปสงค์อุปทานอย่างต่อเนื่อง หากปรากฏว่ามีการกำหนดราคาจำหน่ายโดยไม่เป็นธรรมจะพิจารณามาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมต่อไป