นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ(BBL) มองว่า เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังมีโอกาสเติบโตได้ดีจากแรงขับเคลื่อนหลักของภาคเอกชนที่ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง โดยเชื่อว่า GDP ปี 54 จะเติบโตได้ 4% ตามเป้าหมาย ส่วนปัจจัยลบที่ต้องติดตาม คือ ปัญหาเงินเฟ้อ, ราคาสินค้าแพง, การเคลื่อนย้ายเงินทุน ขณะที่เรื่องการเมืองในประเทศนั้นต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล และจะมีเหตุการณ์ความวุ่นวายตามมาหรือไม่
"การเมืองก็ถือเป็นความเสี่ยง แต่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ผ่านมาเป็นการขับเคลื่อนจากภาคเอกชนมากกว่าภาคการเมือง อยากให้ภาคเอกชนสร้างความเข้มแข็งต่อเนื่องต่อไป ที่ผ่านมา 2 ปีการเมืองก็ไม่ใช่ว่าจะดี แต่เศรษฐกิจยังไปได้ด้วยภาคเอกชน"นายโฆสิต กล่าวในงานสัมมนา "เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2554...โอกาสและความท้าทาย"
พร้อมระบุว่า สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ให้ความสำคัญ คือ การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับการบริหารประเทศให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่ค่อยให้ความสำคัญในจุดนี้
นายโฆสิต มองว่า ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ ถือเป็นอีกปัจจัยที่กดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย แต่หากมองในแง่ดีจะทำให้ราคาสินค้าต่างๆ ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อของโลกที่ไม่ได้สูงกว่าที่คาด ส่วนเงินบาทที่อ่อนค่าลงในขณะนี้ มองว่าไม่น่ากังวล เพราะเป็นเพียงการเคลื่อนย้ายเงินทุนตามปกติ และเป็นไปตามนโยบายการเงินของสหรัฐฯ