รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 155 ต่อ 138 รับรองมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปี ซึ่งการผ่านมาตรการดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้กรีซรับเงินกู้งวดใหม่มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป ซึ่งจะช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้
มาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีฉบับนี้มีวงเงินรวม 2.8 หมื่นล้านยูโร หรือ 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะลดการขาดดุลงบประมาณและปรับขึ้นภาษี เพื่อเสริมสร้างสถานะการคลังให้แข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ รัฐสภากรีซจะลงมติในร่างกฎหมายอีกฉบับหนึ่งในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่มีรายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการทางการคลัง โดยจะครอบคลุมถึง การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ มาตรการขึ้นภาษี และการปรับลดงบประมาณรายจ่าย
ทั้งนี้ หากรัฐสภากรีซลงมติผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ ก็จะช่วยให้กรีซมีคุณสมบัติมากพอที่จะรับเงินเบิกจ่ายเงินกู้งวดที่ 5 มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ได้ทันเวลาในเดือนก.ค. ซึ่งเงินเบิกจ่ายงวดที่ 5 นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเงินกู้มูลค่ารวม 1.10 แสนล้านยูโร (1.57 แสนล้านดอลลาร์) ที่อียูและไอเอ็มเอฟอนุมัติให้กับกรีซเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เพื่อแลกกับการที่กรีซจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดและปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดการขาดดุลการคลังตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การลงมติรับรองมาตรการรัดเข็มขัดครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางการประท้วงทั่วประเทศ และการประท้วงได้ทวีความรุนแรงจนเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงเอเธนส์ เนื่องจากประชาชนจำนวนมากไม่พอใจกับมาตรการดังกล่าว