สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากรัฐสภากรีซมีมติผ่านมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงหลุดจากระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.20 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1510.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,500.80-1,513.80 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.112 ดอลลาร์ ปิดที่ 34.750 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 11.75 เซนต์ ปิดที่ 4.2095 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 33.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,727.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 16.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 751.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนักวิเคราะห์ว่า การที่รัฐสภากรีซมีมติผ่านมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีเพื่อปูทางสู่การรับเงินกู้งวดใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) นั้น ได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันดิบและทองคำ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 74.672 จุดเมื่อวานนี้ จากระดับ 75.063 จุด
รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 155 ต่อ 138 รับรองมาตรการรัดเข็มขัดระยะ 5 ปีเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากประชาชนนับหมื่นที่ออกมาประท้วงในกรุงเอเธนส์ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อมาตรการดังกล่าว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทวีความรุนแรงจนทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา