ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือนพ.ค.54 ว่า ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) และ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ PCI ในเดือน พ.ค.ขยายตัว 5.1% จากทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค และปริมาณการใช้เชื้อเพลิง ที่ยังขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยานยนต์หดตัวเนื่องจากการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในญี่ปุ่น
ส่วน PII เดือน พ.ค.ขยายตัว 11.1% แต่ชะลอลงจากเดือนก่อนตามการลงทุนในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยการนำเข้าสินค้าทุนชะลอลงหลังจากเร่งนำเข้าไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า ส่วนปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์หดตัวตามการผลิตรถยนต์ที่ลดลง
อย่างไรก็ดี การลงทุนหมวดก่อสร้างขยายตัวตามพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างในเขตเทศบาลที่เพิ่มขึ้นจากโครงการลงทุนเพื่อการพาณิชยกรรมในกรุงเทพมหานครเป็นสำคัญ ขณะที่ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนตามโครงการก่อสร้างในภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ
สำหรับภาครัฐยังคงใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในเดือนนี้ รัฐบาลมีรายได้สุทธิค่อนข้างมากจากการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่ารายจ่าย ส่งผลให้ดุลเงินสดเกินดุล 14.0 พันล้านบาท
ปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศยังคงเป็นรายได้เกษตรกรและการจ้างงานที่แม้จะชะลอลงจากเดือนก่อน แต่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยรายได้เกษตรกรขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน 11.7% ชะลอลงจากเดือนก่อนตามผลผลิตสินค้าเกษตรที่หดตัว 5.9% จากผลผลิตข้าวนาปรังที่ลดลงมากหลังจากเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวเร็วกว่าฤดูปกติในช่วงก่อนหน้า
ประกอบกับผลผลิตยางพาราและผลไม้น้อยลงจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรขยายตัว 18.7% ชะลอลงตามราคายางพาราที่การผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในญี่ปุ่น สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ 0.8%